ธ.กรุงไทยโวสถานะแข็งแกร่ง เงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์ ธปท.

1706

business highlight online : 26 กันยายน 2560 – กรณีที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่อง รายชื่อธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศ  ซึ่งได้มีชื่อของธนาคารกรุงไทย เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงระบบในประเทศนั้น

นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตามประกาศของ ธปท.ดังกล่าว ทำให้ในปี 2562 ต้องมีการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงขั้นต่ำ เพิ่มขึ้นอีก 0.5% กล่าวคือ ในปี 2562 ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวทั้ง 5 แห่งตามประกาศ ต้องมีเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Total Capital Ratio) ขั้นต่ำอยู่ที่ 11.50% ตามเกณฑ์ ธปท. โดยปัจจุบันเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารกรุงไทย (ตามเกณฑ์กลุ่มธุรกิจทางการเงิน) ณ สิ้น มิ.ย.2560 อยู่ที่ 16.27% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง สูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนดไว้เช่นกัน

“ธนาคารมีเงินกองทุนตามเกณฑ์บาเซิล 3 มาแล้วตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งขณะนี้เงินกองทุนของธนาคารสูงกว่าเกณฑ์ ธปท.กำหนดไว้ ขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีความกังวลใดๆเกี่ยวกับเรื่องเงินกองทุนในปัจจุบันซึ่งสถานะทางการเงินของธนาคารยังมีความแข็งแกร่ง” นายพูลพัฒน์ กล่าว

สำหรับประกาศ ธปท.เรื่องแนวทางการระบุและการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศนั้น ก่อนหน้านี้ ธปท.ยังได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนส่วนเพิ่ม เพื่อรองรับผลขาดทุนในภาวะวิกฤต (Conservation buffer) โดยให้ทยอยดำรงส่วนเงินกองทุนเพิ่มเติมจากอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำอีกปีละ 0.625% ตั้งแต่ 1 ม.ค.2559 จนครบ 2.50% ในวันที่ 1 ม.ค.2562   ซึ่งในปัจจุบันธนาคารได้มีการตั้งสำรองตามเกณฑ์ของ ธปท.ครบถ้วน

นายพูลพัฒน์ กล่าวอีกว่า ธนาคารมีความเชื่อมั่นว่า เงินกองทุนตามเกณฑ์ดังกล่าว จะสามารถรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ส่งผลให้สถานะทางการเงินของธนาคารมีความแข็งแกร่ง และสามารถรองรับการขยายธุรกิจได้ในอนาคต

การเงิน / การคลัง : ธ.กรุงไทยโวสถานะแข็งแกร่ง เงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์ ธปท.

business highlight online : post 26 กันยายน 2560 เวลา 23.10 น.