“ประยุทธ์” ชูศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยต่อนักธุรกิจสหรัฐฯ

1671

business highlight online : วันนี้ (4 ตุลาคม 2560) เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (USABC) และสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา (U.S. Chamber of Commerce) เป็นเจ้าภาพ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความมั่นคงและเสถียรภาพของไทยมีผลต่อพัฒนาการและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความเจริญรุ่งเรืองในภาพรวมของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับหุ้นส่วนต่างชาติ รวมทั้งมีนโยบายและแนวทางเพื่อวางพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง และเตรียมความพร้อมของไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำความสัมพันธ์ยาวนานระหว่างไทยกับสหรัฐฯที่มีอย่างรอบด้าน โดยความสัมพันธ์ทางธุรกิจการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศ มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างกันทั้งในเชิงภาพรวมและระดับประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เน้นเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และความกินดีอยู่ดีของชาวอเมริกัน รวมถึงการสร้างงาน

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งได้เน้นย้ำความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ และจะส่งเสริมความร่วมมือกันในอนาคตต่อไป ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคงซึ่งเป็นเสาหลักที่ค้ำชูความเป็นพันธมิตรระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีส่วนสำคัญในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค ในประเด็นเศรษฐกิจ ไทยและสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ประธานาธิบดีทรัมป์เห็นพ้องว่า ประเด็นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะทั้งสองประเทศต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน

ในปัจจุบันมีนักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในสหรัฐฯกว่า 20 บริษัท มูลค่ารวมราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสร้างงานกว่า 68,000 ตำแหน่ง ในขณะเดียวกันธุรกิจสหรัฐฯกว่า 100 บริษัทก็เข้ามาลงทุนในไทย มูลค่ากว่า 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยได้เปรียบในเชิงที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ความพร้อมในเชิงโลจิสติกส์ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งไทยประสบความสำเร็จในการยกระดับการพัฒนา และเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มประเทศ CLMV ตลาดอาเซียน รวมทั้งภูมิภาคเอเชีย นโยบายประเทศไทย+1 ไม่ได้ให้ความสำคัญแต่เพียงระดับทวิภาคี แต่ยังต่อยอดไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพ

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้แจ้งแก่ภาคเอกชนสหรัฐฯ เกี่ยวกับนโยบายในการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะประเทศไทย 4.0 และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นประตูแห่งโอกาสที่เปิดกว้าง และพร้อมต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

เศรษฐกิจนโยบาย :  “ประยุทธ์” ชูศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยต่อนักธุรกิจสหรัฐฯ

business highlight online : post 4 ตุลาคม 2560 เวลา 19.10 น.