คณะกรรมการขับเคลื่อนเจรจาการค้าการลงทุนประชุมนัดแรกออกมาตรการหนุนเอกชนลงทุน

555

business highlight online : ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสเฟสบุ๊กเปิดเผยว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนการเจรจาการค้าและการลงทุน ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน และได้มอบหมายให้ท่านรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ปฏิบัติหน้าที่แทน โดยมีผมเป็นรองประธาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เป็นฝ่ายเลขาธิการ ซึ่งมีผู้แทนทั้งจากกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมการประชุม ซึ่งหน้าที่ของคณะกรรมชุดนี้คือ การนำเสนอมาตรการด้านส่งเสริมการลงทุน และพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอ ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.พิจารณาอีกครั้ง

โดยเมื่อวันที่ 23 มกราคม 63 มีการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการชุดนี้ กระทรวงการคลังได้นำเสนอมาตรการด้านการเงินการคลัง เพื่อสนับสนุนการลงทุนของภาครัฐและเอกชนในประเทศ โดยเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการเป็นหลัก ดังนี้

1.ผู้ประกอบการสามารถหักค่าใช้จ่ายในการลงทุนเครื่องจักรใหม่ได้ 2.5 เท่า 1ปี (1 ม.ค.- 31ธ.ค.63)

2.ยกเว้นอากรขาเข้า สำหรับการนำเข้าเครื่องจักร เป็นระยะเวลาทั้งหมด 1 ปี (1 ม.ค.- 31ธ.ค.63)

และมาตรการสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการที่ต้องการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสามารถดำเนินการตามสิทธิได้รวดเร็วขึ้น เช่น สินเชื่อพิเศษเพื่อการลงทุนของผู้ส่งออก โดย EXIM Bank วงเงิน 5,000 ล้านบาท ,สินเชื่อ Tranformation Loan โดย ธ.ออมสิน วงเงิน 15,000 ล้านบาท ,สินเชื่อ SME D Bank จำนวน 20,000 ล้าน , สินเชื่อ ธ.กรุงไทย วงเงิน 60,000 ล้านบาท เป็นต้น

โดยมาตรการเหล่านี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ไว้เบื้องต้นว่าจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการลงทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท

ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ ที่ประชุมได้เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดประชุม CEO Forum การประชุมผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ เพื่อจัดทำแผนเร่งรัดการลงทุนของปี 2563 ก่อนเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา

นอกจากนี้ยังมีการจัดทำแผน Road Show ชักชวนนักลงทุนจากต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยมีเป้าหมายชัดเจนที่จะเจาะจงกลุ่มของผู้ประกอบการ รวมไปถึงกระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดการดำเนินโครงการใหญ่ๆ ให้ดำเนินการไปตามแผนที่วางเอาไว้

“ผมหวังว่ามาตรการที่มีการนำเสนอในเบื้องต้นนี้จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการลงทุนภายในประเทศ ของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในธุรกิจของตัวเองได้” ดร.อุตตมกล่าว

โฆษณา