รองนายกฯด้านเศรษฐกิจระบุเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2 และฟื้นตัวต่อเนื่อง

517

business highlight online : รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ และ รมว.พลังงาน ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่กระทรวงการคลัง ระบุเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสที่ 2 และมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2563

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่กระทรวงการคลัง โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในที่ประชุมมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

1.ในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสที่ 2 และมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2563 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินมาตรการของกระทรวงการคลังที่ดูแลและเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงโครงการคนละครึ่งที่กระทรวงการคลังได้นำดำริของนายกรัฐมนตรีมาดำเนินการจนเห็นผลชัดเจน ทั้งนี้ มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

2.ในด้านนโยบาย กระทรวงการคลังควรมุ่งเน้นภารกิจใน 3 เรื่องได้แก่ 1) ภารกิจด้านนโยบายการคลังการเงิน เช่น การปฏิรูปโครงสร้างภาษีให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม การดูแลภาวะสินเชื่อของภาคธุรกิจและหนี้สินของภาคประชาชน เพื่อให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ได้ 2) ภารกิจการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่มุ่งสู่การพัฒนาของอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจสูง รวมทั้งปรับโครงสร้างภาคการผลิตของไทยให้เข้าสู่มาตรฐานสากล และ 3) ภารกิจการปรับกฎเกณฑ์และระเบียบต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ความโปร่งใส มีความคล่องตัวและอำนวยความสะดวกต่อประชาชนมากขึ้น

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นปัจจัยเร่งรัดให้การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต้องทันสถานการณ์ โปร่งใส ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งวินัยทางการเงินการคลัง นอกจากนี้ หน่วยงานด้านเศรษฐกิจต่างๆจำเป็นต้องประสานความร่วมมือด้านนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและกำหนดนโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต

ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า นอกจากภารกิจงานในด้านต่างๆ ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายข้างต้นแล้ว กระทรวงการคลังจะได้มุ่งเน้นการพัฒนาระบบภาษี การบริหารรายได้ของรัฐบาล และการรักษาวินัยการเงินการคลัง การปรับปรุงการปฏิบัติงานของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการคลังให้เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน (Ease of Doing Business) รวมทั้งดำเนินมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

Advertising