ไบเดน ลงนามคำสั่งควบคุมสกุลเงินคริปโต หลังความนิยมพุ่งสูงต่อเนื่อง

254

business highlight online : ไบเดน ลงนามคำสั่งควบคุมสกุลเงินคริปโต หลังความนิยมพุ่งสูงต่อเนื่อง

10 มี.ค. 2565 ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มเข้าดูแลการใช้สกุลเงินคริปโต โดยเน้นไปที่ระบบธนาคารกลางให้เร่งศึกษาหาข้อสรุปว่า ควรเข้าร่วมออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเองด้วยหรือไม่

เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวรายหนึ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวกล่าวว่า เวลานี้ รัฐบาลประธานาธิบดี ไบเดน เริ่มมองดูประเด็นความนิยมในการใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เริ่มลงมือทำการบางอย่างโดยเร่งด่วนเพื่อดูแลกรณีความเสี่ยงและประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลนี้แล้ว

ภายใต้คำสั่งที่ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในวันพุธ กระทรวงการคลังและหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่นๆ จะต้องทำการศึกษาผลกระทบของคริปโตเคอร์เรนซีต่อเสถียรภาพของธุรกิจการเงินและความมั่นคงของชาติทันที

การเดินหน้าเข้าดูแลประเด็นสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลสหรัฐฯนี้ มีออกมาหลังสมาชิกรัฐสภาและเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่รัสเซียอาจใช้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นหนทางหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ต่อธนาคาร กลุ่มมหาเศรษฐีทีมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของประเทศ (Oligarch) และอุตสาหกรรมน้ำมันรัสเซีย

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วุฒิสมาชิกหลายคนจากพรรคเดโมแครต ทั้ง เอลิซาเบธ วอร์เรน และ มาร์ค วอร์เนอร์ และ แจ็ค รีด ต่างออกมาเรียกร้องให้กระทรวงการคลังออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนงานการสกัดกั้นการใช้สกุลเงินคริปโตของรัสเซียเพื่อหลบหลีกผลกระทบของมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปธน.ไบเดน เชื่อมั่นว่า รัสเซียจะไม่สามารถพึ่งคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อชดเชยความเสียหายจากมาตรการลงโทษต่างๆที่สหรัฐฯและยุโรปดำเนินการออกมาได้มากพอ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า คำสั่งที่เพิ่งมีออกมาล่าสุดนี้ มีการเตรียมการไว้เป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะสั่งกองทัพบุกยูเครนเสียอีก

บริษัท Coinbase Global Inc. ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินคริปโตรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ระบุว่า นับตั้งเกิดสงครามรัสเซียบุกยูเครนมา ยังไม่มีตัวบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงของการซื้อขายของคริปโตเคอร์เรนซีเลย

ข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อ้างผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า ประมาณ 16% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ หรือราว 40 ล้านคน มีการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีในเวลานี้

Advertising