business highlight online : 29 กรกฎาคม 2565 เศรษฐกิจของสหรัฐฯ หดตัวอีกครั้งในไตรมาสที่ 2 ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งในทางทฤษฎีนั้นหมายความว่า สหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลง 0.9% ในช่วงระหว่างเดือนเมษายนและเดือนมิถุนายน ต่อเนื่องจากการหดตัว 1.6% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้
นักเศรษฐศาสตร์บางรายมองว่า การหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ติดต่อกัน 2 ไตรมาส คือ ข้อบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนี้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว แต่บางรายแย้งว่า นั่นเป็นการด่วนสรุปความเกินไป โดยอ้างข้อมูลเชิงบวกอื่นๆ เช่น ตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้นหลายแสนตำแหน่งในแต่ละเดือนและอัตราว่างงานที่ 3.6% ซึ่งเป็นระดับที่เกือบต่ำสุดในรอบ 50 ปี รวมทั้ง อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 4 ทศวรรษด้วย
รายงานจีดีพีล่าสุดของสหรัฐฯ มีออกมาเพียง 1 วัน หลังระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง
อย่างไรก็ดี สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลง ไม่ว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วหรือไม่ คือ ปัจจัยที่ผลกระทบไม่น้อยต่อสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศ เนื่องจาก จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะชี้ชะตาว่า พรรคเดโมแครตจะสามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาคองเกรสได้หรือไม่ หรือ พรรครีพับลิกันจะเป็นฝ่ายที่สามารถแย่งชิงเก้าอี้ทั้งสภาบนและสภาล่างกลับมาอีกครั้ง
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่า เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางดังกล่าว ขณะที่ สมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันออกมาแสดงความมั่นใจว่า สหรัฐฯ ตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว และกล่าวโทษการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของ ปธน.ไบเดนด้วย
Advertisement