ไทยเตรียมเสนอแผนขับเคลื่อน ศก.ดิจิทัล

219

business highlight online : 7 ธันวาคม 2565 ไทยร่วมประชุม รมต.แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 6 ประเทศ GMS ครั้งที่ 25 สปป ลาว เป็นเจ้าภาพ 8 ธ.ค.นี้ เตรียมขับเคลื่อนการลงทุน-เศรษฐกิจดิจิทัล-ยุทธศาสตร์ความเท่าเทียมทางเพศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเอกสาร 5 ฉบับ ที่จะรับรองในการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (Greater Mekong Subregion economic cooperation program : GMS) ครั้งที่ 25 ในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภายใต้หัวข้อ “การเร่งรัดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อต่อยอด 30 ปี แห่งความสำเร็จของแผนงาน GMS ไปสู่การพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน” โดยมอบหมายให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เป็นผู้แทนรัฐบา]

“สาระสำคัญของเอกสารทั้ง 5 ฉบับ มีดังนี้ ฉบับแรก ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ 25 เป็นการรับทราบการดำเนินงาน อาทิ 1.ความก้าวหน้าสำคัญในสาขาความร่วมมือต่างๆ เช่น 1) ด้านคมนาคม การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2) ด้านพลังงาน การสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานผ่านการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด 3) ด้านการเกษตร การส่งเสริมการทำเกษตรที่ยั่งยืน 4) ด้านสิ่งแวดล้อม การลงทุนในสาขาสิ่งแวดล้อมเพื่อผลักดันการพลิกฟื้นเศรษฐกิจสีเขียว 2.รับทราบและให้การรับรองแผนและการดำเนินงานที่มีความก้าวหน้าในประเด็นเชิงบูรณาการ เช่น การจัดตั้งเครือข่ายองค์ความรู้ของอนุภูมิภาค GMS ความร่วมมือด้านดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล และ 3.เน้นย้ำการดำเนินตามกรอบยุทธศาสตร์แผนงาน GMS พ.ศ. 2573 พร้อมทั้งกำหนดให้มีกลไกติดตามและประเมินผล และเร่งสร้างความร่วมมือกับหุ้นส่วนการพัฒนา” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ฉบับที่สอง ยุทธศาสตร์ความเท่าเทียมทางเพศ GMS เน้นย้ำการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ผ่านการสร้างโอกาสให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในโครงการรายสาขาต่างๆ ภายใต้แผนงาน GMS ให้มากยิ่งขึ้น และเป็นการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 5 โดยระบุประเด็นเชิงบูรณาการ เช่น การประสานเศรษฐกิจมหภาค การเคลื่อนย้ายแรงงานและการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย การศึกษาและทักษะ เขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

“ฉบับที่สาม กรอบการประเมินผลลัพธ์สำหรับกรอบยุทธศาสตร์แผนงาน GMS พ.ศ.2573 จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบในการติดตามและประเมินผลในการบรรลุวิสัยทัศน์ GMS 2030 คือ “อนุภูมิภาคที่มีการบูรณาการ มั่งคั่ง ยั่งยืน และครอบคลุมมากขึ้น” โดยได้กำหนดตัวชี้วัดใน 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ความก้าวหน้าในการบรรลุวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดไว้ โดยให้ความสำคัญกับการประเมินผลการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในภาพรวม ระดับที่ 2 ประเมินผลระดับโครงการภายใต้สามเสาหลักของวิสัยทัศน์แผนงาน GMS พ.ศ. 2573 (การเชื่อมต่อ (connectivity) ความสามารถในการแข่งขัน (competitiveness) และชุมชน (community)) และระดับที่ 3 ประเมินปัจจัยนำเข้าในมิติด้านงบประมาณการสนับสนุนองค์ความรู้และกลไกเชิงสถาบัน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ฉบับที่สี่ ข้อริเริ่มความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล GMS จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้า เร่งการเชื่อมต่อด้านดิจิทัล ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล และเร่งการพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล โดยมีแนวทางการดำเนินการ คือ การจัดทำโครงการวิจัยเรื่องการส่งเสริมการพัฒนาเศษฐกิจดิจิทัลใน GMS เพื่อศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน แสวงหาโอกาสและความท้าทายของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลใน GMS

“ฉบับที่ห้า กรอบการลงทุนของภูมิภาคฉบับใหม่ พ.ศ. 2568 (RIF 2025) มุ่งพัฒนาเกณฑ์ของกรอบการลงทุนอนุภูมิภาคฉบับใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกโครงการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง มีแหล่งเงินทุนที่ชัดเจน ทั้งนี้ โครงการมูลค่าลงทุนสูงของไทยที่ได้เริ่มดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาและเข้าสู่กลไกงบประมาณแล้ว ได้แก่ โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ในประเทศ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ในครั้งนี้ คือ 1) นำเสนอบทบาทการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาของไทยใน GMS 2) หารือแนวทางการฟื้นฟู GMS ภายหลังโควิด-19 3) สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ EEC และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

Advertisement