“ศักดิ์สยาม” มั่นใจ ปี 66  ผลักดันรถเมล์ไฟฟ้า (EV บัส) ร้อยเปอร์เซ็นต์

202

business highlight online : 30 มกราคม 66 “ศักดิ์สยาม” มั่นใจ ปี 66  ไทยก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ผลักดันรถเมล์พลังไฟฟ้า (EV บัส) ร้อยเปอร์เซ็นต์ และบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ สังคมไร้งินสด คาดไทยสมายล์บัส วิ่งให้บริการ 3,000 คัน

นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 38 และ 48 เพื่อส่งเสริมให้ผู้รับสัมปทาน ไทย สมายล์ บัส เปลี่ยนจากรถเมล์ NGV มาเป็นรถเมล์ไฟฟ้า สำหรับสาย 38 วิ่งให้บริการเส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  และสาย 48 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – ท่าช้าง ภายใต้แนวคิด Thai Smile Bus Change For The Better เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ณ ไทย สมายล์ บัส สาขา รามคำแหง 2

นับตั้งแต่ปี 2566  ได้ถึงเวลาการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระบบขนส่งมวลชนไทย เมื่อกลุ่มบริษัทไทย สมายล์ กรุ๊ป  ได้เปลี่ยนรถโดยสาร NGV มาเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV บัส) 100%  พร้อมทั้งเปลี่ยนระบบการเก็บค่าโดยสารจากตั๋วแบบกระดาษ มาเป็น HOP CARD ซึ่งเป็นบัตรโดยสารอิเล็คทรอนิคส์  ตามแนวคิดระบบสังคมไร้งินสด สำหรับใช้ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กลุ่มบริษัท ไทย สมายส์ กรุ๊ป พร้อมเปิดให้บริการรถโดยสาร EV  สาย 38 และสาย 48 เตรียมขยายการให้บริการรถเมล์ EV เพิ่มอีกในกลางปี 66 นี้   1,850 คัน  และยังเตรียมรถสำรองรถเมล์เพื่อการซ่อมอีก 900 คัน  ต่อยอดจากปี 2565  ได้เปิดให้บริการรถ EV บัสจำนวน 1,250 คัน รวม 77 เส้นทาง จากเส้นทางสัมปทานรวม 122 เส้นทาง ส่วนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตั้งเป้าปีนี้จะมีรถโดยสาร EV จำนวน 250 คัน หรือร้อยละ 10  ของทั้งหมด 2,500 คัน ออกมาวิ่งให้บริการใน 107 เส้นทาง

ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ (TOR) กระทรวงคมนาคมได้กำหนดเป้าหมายในภาพรวมว่า ขสมก. และ ผู้ประกอบการเอกชน ต้องปรับเปลี่ยนรถโดยสาร 5,000-7,000 คัน เป็นรถ EV บัสให้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ภายใน 3 ปี แต่คาดว่าเพียงปีครึ่ง จะทำได้ตามเป้าหมาย  รองรับการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ Net Zero / ด้วยเทคโนโลยีสะอาด ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม  และยังต้องการส่งเสริมให้นำเครื่องอ่านบัตรโดยสารของภาคเอกชนหลายแห่ง เมื่อประชาชนเข้าใช้บริการระบบใด สามารถตัดเงินได้ทันที เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าไทย

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบันไทย สมายล์ กรุ๊ป อยู่ระหว่างทำการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของ บริษัท สมาร์ท บัส ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงให้กลายเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมทั้งจะยกเลิกการใช้ตั๋วแบบกระดาษ เปลี่ยนไปใช้ HOP Card หรือบัตรโดยสารอิเล็คทรอนิคส์ ในราคา 15-20-25 บาทตามระยะทาง  สำหรับใช้ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ของกลุ่ม ไทย สมายล์ กรุ๊ป เพื่อใช้ชำระค่าโดยสารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Advertisement