“กอบศักดิ์” เผยทุก บลจ.เตรียมออกกองทุน TESG คาดเริ่มขายได้ตั้งแต่ 1 ธ.ค.66 นี้

151

business highlight online : 21 พฤศจิกายน 2566 “กอบศักดิ์” เผยทุก บลจ.เตรียมออกกองทุน TESG

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานคณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เผยทุก บลจ.สนใจเตรียมออกกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน Thailand ESG Fund (TESG) โดยคาดว่า บลจ.ต่าง ๆ จะเริ่มขายกองทุน TESG ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.66

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พิจารณาจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งจากที่พูดคุยกับ บลจ.ต่างๆ ทุก บลจ.พร้อมจะขายกองทุนนี้ เริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.66 ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมือทำงานเพื่อให้กองทุน TESG สามารถเปิดขายได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ซื้อสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก 1 แสนบาท จากเดิมที่ได้ลดหย่อนส่วนต่าง ๆ แล้ว 5 แสนบาท ซึ่งใช้ลดหย่อนได้ในปีภาษี 66 ได้เลย ซึ่ง บลจ.ต่างๆ ก็มีความพร้อมในการคัดหุ้นมาให้เลือก

“กองทุน TESG จะคล้ายกองทุน LTF โดยจะได้สิทธิลดหย่อนภาษี 100,000 บาท/ราย เพื่อให้ทันใช้สิทธิลดหย่อนภาษีปี 66 และคาดเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น 1 หมื่นล้านบาท โดยกองทุน TESG จะลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทยที่มี ESG ระยะเวลาถือครอง 8 ปีเต็ม และขณะนี้เป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงซบเซา หุ้นที่เข้าข่ายลงทุนก็เป็นหุ้นที่นักลงทุนรู้จักเป็นอย่างดี และมีสภาพคล่องสูง” นายกอบศักดิ์ กล่าว

กองทุน TESG จะเลือกลงทุนบริษัทที่ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล และเข้ามาตรฐาน ESG (Environment, Social and Governance) ปัจจุบันมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 210 บริษัท ที่เข้าข่ายกรอบลงทุนของกองทุน TESG จากทั้งหมดที่มีกว่า 800 บริษัท โดยในจำนวนดังกล่าวมีมูลค่าตลาด (Market Cap) คิดเป็น 81% ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มพลังงาน บริษัทจัดการของเสีย อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรม และทรัพยากร เป็นต้น เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม มีธรรมาภิบาล ความโปร่งใสในการทำงาน ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน SET ESG Rating ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทอื่นๆ แข่งขันกันเพื่อให้เข้าสู่ ESG Rating เพราะได้สิทธิพิเศษมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยพัฒนาและยกระดับตลาดทุนไทย

นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ บล.เอเอสแอล มองว่ากองทุน TESG มาถูกทางถูกจังหวะในสถานการณ์ตลาดแบบนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้น สร้างความคึกคักให้ตลาดและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เช่น การจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ มาเก็บหุ้นตัวใหญ่ ซึ่งการลงทุนของกองทุนจะเป็นการลงทุนระยะยาว หากมองระยะยาวเชื่อว่าในปี 2570 เศรษฐกิจจะดีมาก

Advertisement