Business Highlight Online : 7 สิงหาคม 2567 โฆษกรัฐบาลเผย ค่ายรถยนต์ Hyundai จากเกาหลีใต้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV และแบตเตอรี่ครบวงจร สะท้อนความเชื่อมั่นต่อนโยบายนายกฯ แผนส่งเสริมอุตสาหกรรม EV รวมถึงศักยภาพและความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานไทย
วันนี้ (7 สิงหาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าด้วยนโยบายของดึงดูดและส่งเสริมการลงทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า(EV) จากต่างประเทศของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้รับผลตอบรับในเชิงบวกต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งจากประเทศเกาหลีใต้ ประกาศแผนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV และแบตเตอรี่ครบวงจร พร้อมเดินเครื่องผลิตต้นปี 2569 ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท (เฉพาะสำหรับเครื่องจักรเท่านั้น ไม่รวมมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยข้อมูลจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการของบริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก และค่ายรถยนต์รายใหญ่จากเกาหลีใต้ สำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) และผลิตแบตเตอรี่ ตั้งแต่ขั้นตอนการประกอบโมดูล เพื่อป้อนให้กับสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท (เฉพาะสำหรับเครื่องจักรเท่านั้น ไม่รวมมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) โดยมีบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด และบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นพันธมิตรสำคัญในการลงทุน ทั้งนี้ บริษัท ฮุนไดฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาแผนจัดหาชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในประเทศไทย เพื่อเชื่อมโยง Supply Chain ในประเทศ และตั้งเป้าเริ่มผลิตในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งทาง BOI พร้อมทำงานร่วมกับบริษัทอย่างใกล้ชิดเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) ตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ของบริษัท ฮุนไดฯ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี EV ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานของไทย และความเชื่อมั่นในแผนส่งเสริมอุตสาหกรรม EV แบบครบวงจรตลอดห่วงโซ่อุปทานของรัฐบาล
“นายกรัฐมนตรีฯ เห็นแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามกระแสเพื่อต่อสู้กับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของโลก นายกรัฐมนตรีจึงมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ตอบสนองต่อกาต่อสู้กับความท้าทายเหล่านี้ และเพื่อดึงดูดให้ผู้ลงทุนต่างชาติรายใหม่ และสนับสนุนผู้ผลิตรายเดิมให้ขยายการลงทุน รวมถึงสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยในการเชื่อมโยงเข้าสู่ Supply Chain ระดับโลก และปรับตัวไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตได้” นายชัย กล่าว
Advertisement