Business Highlight Online : 13 ธันวาคม 2567 หัวหิน – “ทักษิณ” ชี้ เพื่อไทยเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แนะ 2 วิธี ลดหนี้สาธารณะ บอก “ทีมงานทรัมป์” เตือน กำแพงภาษีหลังไทยได้เปรียบดุลการค้า ย้ำไทยต้องดัน GDP ให้ถึง 5% หวั่นด้อยกว่าประเทศอาเซียน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทยช่วงหนึ่งว่า วันนี้เป็นห่วงมากที่สุดคือ หลังจากที นายโดนัลล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้รับเลือกตั้ง ซึ่งก่อนการหาเสียงก็มี คนของทรัมป์ ซูมคุยกับตนว่าประเทศไทยระวัง เนื่องจากเราได้เปรียบดุลการค้าอเมริกา เพราะอเมริกาจะจัดการ กับประเทศที่เสียดุลการค้า ด้วนการเพิ่มภาษีหรือให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในสหรัฐอเมริกา เพื่อไปให้เกิดการจ้างงานในอเมริกา ขณะเดียวกันเราพึ่งไปเจรจา FTA กับประเทศออสเตรเลีย ทำให้สิ้นค้า Daily Product เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่เสียภาษี แต่อเมริกาโดน 50% แม้เราอาจจะมองว่าอาจจะไม่กระทบอะไรกับคนไทย แต่ต้องศึกษาเอาไว้ เป็นสิ่งที่เราต้องรู้เขา และเขาต้องรู้เรา
นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนที่ทรัมป์ ประกาศว่าจะใช้หนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ด้วยบิตคอยน์ และเพื่อนตนก็เตือนให้กว่าระวัง บิตคอยน์ จะขึ้นไปถึงเหรียญละ 850,000 บาทซึ่งวันนี้อยู่ที่เหรียญละ 100,000 บาท ที่พูดแบบนี้เพราะมีแนวโน้มที่หลายประเทศจะนำบิตคอยน์ บางส่วนมาใช้จ่ายในประเทศ
ขณะเดียวกันผู้ว่าการแบงค์ชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า บิตคอยซ์ แต่แข่งกับทองคำ แสดงให้เห็นว่าเงินดิจิทัล สามารถสร้างมูลค้าได้ และขณะนี้บิตคอยน์ ออกมาแล้วกว่า 19 ล้านเหรียญ จาก 21 ล้านเหรียญ ขณะที่ทองคำออกมาได้ไม่จำกัด ซึ้งหลายคนบอกด้วยว่าอีกหน่อยเราจะมีสกุลเงินมากกว่าประเทศในโลกนี้ หมายความว่า 1 ประเทศมีมากกว่า 1 สกุล ดังนั้นวันนี้ไทยต้องเตรียมและต้องรู้เท่าทันให้ได้ นายกรัฐมนตรี ในมอบให้นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง และกระทรวงการคลังไปศึกษา ว่าเราจะรับ บิตคอยน์ได้หรือไม่ สิ่งที่น่าติดตามคือ สเตเบิลคอยน์ ที่จะเพิ่มเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจแทนการออกพันธบัตร ซึ่งขาดทุนทุกปี โดยสามารถออกเป็นคอยซ์ โดยมีบอร์ดของรัฐบาลค้ำประกัน ทำให้มีเงินก็จะไหลเวียนในเศรษฐกิจทำให้เศรษฐกิจโตแน่นอน
นายทักษิณ กล่าวว่า GDP ปีหน้าโต 3.5 % ไม่น่ามีปัญหา ปี 69 โต 4% ซึ้งวันนี้เราไม่พอใจเพราะหาก GDP ไม่ถึง 5 %ประเทศไทย จะด้อยกว่าประเทศอื่นในอาเซียน เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเราถูกดูดออกหมด เพราะว่า ธนาคารพาณิชย์อยากปล่อยกู้ธุรกิจที่ยังไม่มั่นคง จึงต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ในระบบเศรษฐกิจ โดยที่ไม่เป็นภาระกับประเทศ ซึ่งหนี้สาธารณะเราเยอะมาก 68% มีเพดานหนี่สาธารณะอยู่70% วันนี้มีวิธีลดหนี้สาธารณะอยู่ 2 อย่างคือ 1. ทำ GDP ให้โต 2. ลดการขาดดุลหรือจัดเก็บภาษีให้เพียงพอ ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากทั้งคู่ ซึ่งไม่เหนือบ่ากว่าแรง เพราะพรรคเพื่อไทยเราเกิดมาด้วยความสามารถทางเศรษฐกิจ
Advertisement