“กอบศักดิ์” ประธาน FETCO ประเมิน จีดีพีปี 68 โตมากกว่า 3%

7

Business Highlight Online : 9 มกราคม 2568 FETCO ประเมินจีดีพีปี 68 ขยายตัวมากกว่า 3% ปัจจัยหนุนจากท่องเที่ยว-ส่งออก-ลงทุนต่างชาติ-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ จับตา “ทรัมป์” เข้ารับตำแหน่งประธานธิบดีสหรัฐ 20 ม.ค.นี้ เชื่อทำตลาดผันผวน เตรียมหารือรัฐบาลต่ออายุ SSF ชี้สร้างนักลงทุนหน้าใหม่

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวถึงทิศทางเศรษฐกิจในปี 2568 ประเมินว่าจีดีพีมีโอกาสขยายตัวในระดับมากกว่า 3% จากปัจจัยสนับสนุน การท่องเที่ยวที่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะถึง 40 ล้านคน การส่งออกที่มองว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง การลงทุนจากต่างชาติ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

ส่วนภาคตลาดทุน ที่ต้องจับตาคือการสาบานตนเข้ารับรับตำแหน่งของนายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ในวันที่ 20 มกราคมนี้ ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่อย่างไร ทั้งนโยบายสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี เชื่อว่าจะทำให้ตลาดมีความผันผวน นอกจากนี้ ตลาดยังกังวล Global Minimum Tax ที่ส่งผลต่อกำไร บจ.ลดลง รวมไปถึง กรณี ฟอร์ซเซล ที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตาม แต่อยากให้ดู Fundamental ในระยะยาว เชื่อว่าตลาดในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งไทยยังไปต่อได้ หากไม่มีสงครามที่รุนแรง ทั้งนี้มองว่าแต่ละประเทศกำลังมีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนพื้นฐานของอาเซียนทั้งหมด

“เชื่อว่า 4 ปีข้างหน้า จะเป็น 4 ปีที่ผันผวน จากประธานาธิบดีสหรัฐคนนี้ จะมีมาเป็นระยะ ไม่ใช่แค่เฉพาะวันแรกที่รับตำแหน่ง แต่ก็มีความคาดหวังว่า ทรัมป์ จะมีโอกาสทำให้สงครามที่แท้จริง เช่น รัสเซีย-ยูเครน ลดความรุนแรงหรือสามารถทำให้ยุติได้ ซึ่งหากทำได้ก็จะส่งผลต่อธุรกิจไทยให้ไปต่อได้อีกด้วย” นายกอบศักดิ์ กล่าว

นายกอบศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เตรียมเข้าหารือกับรัฐบาล โดยมีประเด็นเรื่องความคืบหน้าความสำเร็จของ กองทุน Thai ESG ที่ถือว่าอยู่ในระดับดี นอกจากนี้ยังจะหารือเรื่องการต่ออายุ SSF ภายใต้เงื่อนไขเดิม เนื่องจากพบว่าส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ อายุน้อย แตกต่างการผู้ลงทุนใน RMF จึงมองว่าการลงทุนใน SSF จะเป็นการสร้างนิสัยการลงทุนที่ดีให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ รวมถึงจะหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องอื่นที่ภาคตลาดทุนจะสามารถสนับสนุนรัฐบาลในการชขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ อาทิ การจัดทำ โรดโชว์ ที่ไม่จำเป็นต้องไปต่างประเทศเท่านั้น อาจเป็นในรูปแบบออนไลน์ หรือเชิญนักลงทุนมายังประเทศไทย เป็นต้น

Advertisement