บอร์ด ตลท. เห็นชอบปรับปรุงมาตรการเพิ่มเชื่อมั่นผู้ลงทุน-สร้างเสถียรภาพตลาดหุ้น

8

Business Highlight Online : 19 กุมภาพันธ์ 2568 บอร์ด ตลท.เห็นชอบ ทบทวน Short selling ใช้ Uptick เฉพาะหุ้นที่ราคาลดลงจากราคาปิดก่อนหน้า ยกเลิกมาตรการ Minimum Resting Time 250 Milliseconds ชะลอ Dynamic Price Band เฟส 2 หวังยกระดับความเชื่อมั่น สร้างเสถียรภาพตลาดทุน คาดประกาศใช้ไตรมาส 2/2568

วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฯ มีมติเห็นชอบแนวทางปรับปรุงมาตรการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่น ที่ได้เริ่มใช้บังคับในช่วงปี 2567 โดยได้พิจารณาแนวทางและมาตรการอย่างรอบด้านเพื่อให้เกิดความเหมาะสมของการใช้มาตรการตามสถานการณ์ มุ่งหวังที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน และสร้างเสถียรภาพตลาดหุ้นไทย โดยหลังจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะใช้บังคับได้ประมาณปลายไตรมาส 2 ปีนี้

สำหรับการปรับปรุงในครั้งนี้ สามารถสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1.การกำกับดูแลการขายชอร์ต

ปรับปรุงคุณสมบัติของหลักทรัพย์ที่สามารถขายชอร์ตได้ ให้เป็นหลักทรัพย์เฉพาะในกลุ่ม SET100จากเดิมที่กำหนดให้เป็นหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET100 และ non-SET100 ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง (คือ มี Market Capitalization เฉลี่ย 3 เดือน ไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านบาท และมีMonthly Turnover ในรอบ 12 เดือน ไม่น้อยกว่า2% รวมทั้งมีการกระจาย Free Float ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว)

กำหนดให้ใช้เกณฑ์ Uptick เมื่อจำเป็น คือ กรณีปกติสามารถใช้เกณฑ์ Zero-Plus Tick สำหรับการขายชอร์ตได้ เว้นแต่เมื่อหลักทรัพย์ใดมีราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด (เช่น ≥X% จากราคาปิดของวันก่อนหน้า) จึงจะต้องขายชอร์ตหลักทรัพย์นั้นด้วยเกณฑ์ Uptick ในวันทำการถัดไป

2.การกำกับดูแล HFT

กำหนดให้ผู้ลงทุนที่ขึ้นทะเบียนส่งคำสั่งซื้อขายแบบ High Frequency Trading (HFT) สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้เฉพาะหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET100ทั้งนี้ไม่รวม Market Maker และหลักทรัพย์บางประเภท

3.การผ่อนคลายมาตรการที่ได้ประกาศใช้เมื่อปี 2567

ยกเลิกเกณฑ์กำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย(order) ก่อนที่จะสามารถยกเลิกคำสั่ง (Minimum Resting Time)

เลื่อนการบังคับใช้เกณฑ์การกำหนดกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band เป็นรายหลักทรัพย์ Phase 2 ออกไป

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในเชิงนโยบาย ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคงมาตรการต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมและที่จะมีการปรับปรุงในครั้งนี้ให้มีการใช้อย่างต่อเนื่อง โดยจะทบทวนอีกครั้งในปี 2569

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญในการดูแลผู้ลงทุนทุกกลุ่ม จึงอยากให้เชื่อมั่นว่าเแนวทางการปรับปรุงมาตรการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นดังกล่าว เป็นสิ่งที่ต้องการสร้างความสมดุลและความเชื่อมั่นให้เกิดต่อเนื่อง สร้างเสถียรภาพทั้งราคาและปริมาณ การพิจารณาแนวทางในครั้งนี้พิจารณาจากภาพรวมไม่ใช่กรณีใดกรณีหนึ่ง เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความสับสนกับภาตลาดโดยรวมจึงต้องดูองค์ประกอบทั้งหมด เพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในขณะนี้

“ความตั้งใจที่เป็นมติไปด้วยกันคือเราจะไม่แตะต้องหรือไม่มีมาตรการอะไรใหม่ ที่จะสร้างความสับสนหรือผันผวนอื่นๆให้กับนักลงทุนไปจนถึงต้นปีหน้า หลังจากนั้นจึงจะมาทบทวนอีกครั้ง” นายอัสสเดช กล่าว

Advertisement