Business Highlight Online : 16 กรกฎาคม 2568 FETCO หวั่นนักลงทุนย้ายฐานไปเวียดนาม-อินโดนีเซีย หากไทยถูกเรียกเก็บภาษี 36% ส่งออกติดลบ จีดีพีปี 68 โตไม่ถึง 1.5% ชี้หากถูกเก็บไม่เกิน 25% ยังบริหารจัดการได้
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวถึงมาตรการภาษีตอบโต้ที่สหรัฐประกาศใช้กับทุกประเทศเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 15 – 20% ล่าสุดอินโดนีเซียบรรลุข้อตกลงเจรจาได้ ในอัตรา 19% จะเห็นว่ากลุ่มสำคัญที่สุดขณะนี้คือกลุ่มอาเซียน โดยเวียดนามถูกเรียกเก็บในอัตรา 19% มาเลเซีย 25% ฟิลิปปินส์ 20% สิงคโปร์ 10% และไทยเป็นประเทศรั้งท้ายที่ยังคงอัตราภาษีที่ 36% หากตัวเลขออกมาแบบนี้ไทยจะเสียเปรียบด้านการส่งออก 11- 17% จะทำให้มีปัญหาในการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ที่สำคัญ ยังส่งผลต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาสู่ประเทศไทย เพราะถือเป็นโค้งสำคัญในการเปลี่ยนฐานการผลิตไปสู่เซกเตอร์ใหม่ ซึ่งไทยดำเนินการเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว หากไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% อาจส่งผลให้นักลงทุนย้ายการลงทุนไปเวียดนามและอินโดนีเซีย เป็นสิ่งที่กังวลที่สุดว่าในระยะยาวจะสามารถดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยได้หรือไม่
ดร.กอบศักดิ์ ระบุหากไทยสามารถเจรจาให้ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราไม่เกิน 25% นั้นน่าจะเป็นระดับที่บริหารจัดการได้ เพราะยังใกล้เคียงเวียดนามที่ถูกเก็บในอัตรา 20% และอินโดนีเซียที่ถูกเก็บในอัตรา 19% โดยมองว่าส่วนต่าง 5-6 % ที่เกินมานั้น น่าจะเป็นเงื่อนไขเจรจา เพื่อแลกกับบางรายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้านำเข้า 0% จากสหรัฐ เพื่อบรรเทาผลกระทบในกลุ่มอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตร โดยประเมินว่าถ้าหากไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% น่าจะทำให้การส่งออกทั้งปี 2568 ทรงตัว จีดีพีเติบโตในระดับ 1.5-2%
อย่างไรก็ตามในกรณีที่ไทยอาจถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงสุด 36% ประเมินว่า จำทำให้การส่งออกในปีนี้ติดลบ และจีดีพีเติบโตไม่ถึง 1.5%
Advertisement
