นาทีนี้ นโยบายดอกเบี้ยต้องเร็ว! แรง!! รัว!!!

3

9 ตุลาคม 2568 เศรษฐกิจไทยเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ปรากฏสัญญาณเตือนหลายอย่างแล้วตอนนี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำมากจนอาจติดลบ และสินเชื่อในระบบที่หดตัวต่อเนื่อง แต่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2568 กรรมการ 5 คน (เสียงข้างมาก) ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยให้เหตุผลว่าการลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมา อยู่ระหว่างการส่งผ่านไปยังภาคเศรษฐกิจ ซึ่งกรรมการทั้ง 5 คนให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงิน ภายใต้ขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (Policy Space) ที่มีจำกัด หมายความว่า กำลังรอให้การลดดอกเบี้ยที่ผ่านมา ผลิดอกออกผลเสียก่อน ขณะที่กรรมการอีก 2 คน (เสียงข้างน้อย) เห็นว่านโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้อีก คือ สามารถลดดอกเบี้ยลงได้อีก เพื่อให้ภาวะการเงินสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาด้านสภาพคล่องและภาระหนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs และครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง

ผมเห็นว่า เศรษฐกิจไทยตอนนี้ การตัดสินใจลดดอกเบี้ยต้องทำโดยเร็ว และต้องใช้ ยาแรง หรือนโยบายดอกเบี้ยแรงๆ จึงจะเอาอยู่ หากไม่ลดดอกเบี้ยลงรัวๆ ปัญหาสภาพคล่องและภาระหนี้เอาไม่อยู่แน่ครับ โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการตัวเล็ก และประชาชนทั่วไป ยิ่งตอนนี้ เงินฝืดส่งสัญญาณแล้ว รออีก 1 เดือนกว่าการประชุมครั้งหน้า ก็อาจช้าเกินแกง!!

คณะกรรมการ กนง.มี 7 คน ต่อให้ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ เก่งแค่ไหน ก็ทำอะไรได้ไม่มาก เพราะผู้ว่ามีเพียง 1 เสียง .. มีผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่แล้ว ถ้าเปลี่ยนคณะกรรมการ กนง.ใหม่ยกชุดด้วย ทุกอย่างน่าจะ start ได้สวย

พูลเดช กรรณิการ์

Advertisement