“เอกนิติ” กางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ มุ่งลดหนี้ครัวเรือน-ยกระดับแรงงานไทย

27 ตุลาคม 2568 “เอกนิติ” กางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ มุ่งลดปัญหาหนี้ครัวเรือนผ่าน AMC ยกระดับแรงงานไทย รองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ นำเงินซื้อหวยสะสม ค้ำประกันกู้เติมสภาพคล่องให้รายย่อย ปฏิรูปค่าลดหย่อนภาษี

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษในงาน “Thairath Forum 2025” ว่าสภาพัฒน์คาดการณ์จีดีพีไตรมาส 4 โตร้อยละ 0.3 หลังจากไตรมาสแรกโตร้อยละ 3.2 ไตรมาส 2 โตร้อยละ 2.8 คาดการณ์ไตรมาส 3 โตร้อยละ 1.7 เมื่อไตรมาส 4 โตเพียงร้อยละ 0.3 นับว่าดิ่งเหวเลย รัฐบาลจึงต้องใช้มาตรการกระตุ้นสั้น ได้ผลระยะยาว และกระจายตัวไปทั่วประเทศ ผ่านนโยบาย Quick Big Win ช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพื่อให้จีดีพีไตรมาส 4 โตมากกว่าร้อยละ 1

อันดับแรกจึงต้องการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน โดยเติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการ 13,000 ล้านบาท ดูแลชาวบ้าน ประมาณ 13.4 ล้านคน จากนั้นผลักดันคนละครึ่งพลัส หวังให้เงินของรัฐบาลและเงินของประชาชน 88,000 ล้านบาท ออกสู่ระบบเศรษฐกิจ ชาวบ้านเริ่มใช้จ่าย “คนละครึ่งพลัส” 29 ต.ค.นี้ เมื่อกระตุ้นการใช้จ่ายแล้ว จากนั้นจะยกระดับพ่อค้าแม่ค้าให้ขายสินค้าผ่านออนไลน์ ใครทำบัญชีถูกต้อง ดึง ธ.ออมสิน ธ.กรุงไทย มาช่วยหนุนเพื่อต่อยอดกับแพลตฟอร์มออนไลน์

“วันนี้ได้หารือกับผู้ว่าการ ธปท. ปลัดคลัง เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ผ่าน AMC เพื่อเข้าไปรับซื้อหนี้จากธนาคาร แล้วนำมาปรับปรุงหนี้ ใช้ทุนประเดิมจากกองทุนฟื้นฟูฯ ประมาณ 20,000 ล้านบาท เมื่อแบงก์ขายหนี้เสียออกไปจะทำให้แบงก์กล้าปล่อยกู้ได้มากขึ้น มอบหมายให้ SAM มาร่วมแก้ปัญหาหนี้ จะมีแนวทางสร้างวินัยให้กับลูกหนี้ เพื่อได้รับการช่วยเหลือผ่านระบบ ARI Scoring โดยใช้พฤติกรรมลูกค้า จ่ายค่าน้ำประปา ไฟฟ้า มาใช้เป็นฐานประเมินการดูแลลูกหนี้ต่อเนื่อง หากมีวินัยรับผิดชอบหนี้ของตัวเอง คาดว่าจะชัดเจนในเร็วๆ นี้ ให้ออมสินเติมทุน และกลับมาเป็นคนดี” นายเอกนิติ กล่าว

นอกจากนี้รัฐบาลยังนำกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมาช่วยลงทุนเพื่อสร้างอนาคต ยอมรับว่าในเวทีประชุมรัฐมนตรีคลังเอเปค หลายประเทศแจ้งในเวทีประชุมว่าต่างชาติต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่แรงงานไทยขาดทักษะ เรื่องในอนุญาตเข้าใช้น้ำประปา ไฟฟ้า ยุ่งยากมาก จึงต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ นำแรงงานมา Reskill และ Upskill นำกองทุนเพิ่มขีดสามารถ 1 หมื่นล้านบาท ไม่เคยใช้ประโยชน์ เพื่อนำบางส่วนมาปรับใหม่ จับมือกับ อว.มหาวิทยาลัย พัฒนาแรงงานไทย รองรับความต้องการของอุตสหากรรมยุคใหม่ เป้าหมาย 1 แสนคน

อีกส่วนหนึ่งในการประชุมบอร์ดบีโอไอครั้งที่ผ่านมา หารือกับภาคเอกชนเตรียมดึงธนาคารมาร่วมปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับเอสเอ็มอีสำหรับการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล

รัฐบาลยังเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนโซลาร์ลอยน้ำ เพื่อดึงให้นักลงทุนขนาดใหญ่กล้าตัดสินใจเข้ามาลงทุนพลังงานทดแทนโซลาร์ลอยน้ำ โดยจะปลดล็อกการลงทุนด้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกกับนักลงทุน เตรียมเสนอ ครม. พิจารณา

สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้ค่าลดหย่อนภาษีเมืองหลัก 1 เท่า เมืองรอง 1.5 เท่า ในวงเงินไม่เกิน 2 หมื่นบาท เมื่อกำหนดให้ใช้ใบกำกับภาษีออนไลน์ ทำให้ร้านค้าเข้าแบบ e-Taxinvoice มากขึ้น ได้หารือกับ ดร.บวรศักดิ์ จัดทำเฟสต่อไปในปี 69 หากร้านค้าใดใช้ระบบใบกำกับภาษี e-Taxinvoice รองรับด้วยดิจิทัล จะได้ค่าลดหย่อนมากขึ้น หากท่องเที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนได้ถึง 30,000 บาท

ส่วนมาตรการส่งเสริมการออม เตรียมเปิดให้ประชาชนรายย่อยเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้ง่ายขึ้น ซื้อได้ทุกเดือน โดยให้ดอกเบี้ยเท่ากับแบงก์หรือมากกว่า เพื่อให้ผู้สูงอายุมีแหล่งเงินออมและปลอดภัย คนไทยยังชอบเล่นหวย คนถูกกินไม่ได้รางวัล มอบหมายให้ปลัดคลัง ศึกษานำเงินซื้อสลากดิจิทัล สำหรับคนที่ไม่ถูกรางวัล นำมาจัดสรรคืนเมื่ออายุ 55 ปี โดยกองทุนจะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในตลาดทุนให้มีดอกผลเพิ่มเติม หากคนไหนขาดสภาพคล่อง นำเงินซื้อหวยของตัวเองมาค้ำประกันหนุนหลัง เพื่อขอกู้เติมสภาพคล่องให้กับรายย่อยได้อีกทางหนึ่ง

นายเอกนิติ ได้หารือกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ จากเดิมมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนผ่านกองทุน LTF, RMF, กองทุน ESG หลายคนซื้อเพราะนำมาลดหย่อนภาษี แต่ขณะนี้มีผลขาดทุนหลายคน โดยกองทุน LTF เพียง 1 กองทุน เสียภาษีปีละ 20,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนร้อยละ 80 เป็นเงิน 16,000 ล้านบาท อยู่ในคนระดับกลางคนรวย ที่เสียภาษีร้อยละ 30-35 รัฐบาลจึงต้องการปฏิรูปภาษีใหม่ สร้างฐานให้มั่นคง เช่น ตั้งกองทุน (ISA) Individual Savings Account เป็นบัญชีออมทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ไม่ต้องเสียภาษี เพื่อให้สิทธินักลทุนเลือกได้เอง โดยไม่กระทบต่อพอร์ตการลงทุนในตลาด จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนาตลาดทุน

Advertisement