business highlight online : กระทรวงเกษตรเผยผลโครงการไทยนิยม 2 เดือนแรก เบิกจ่ายแล้ว 4,060 ล้านบาท เกษตรกรและประชาชนร่วมโครงการ 1.7 ล้านราย สร้างรายได้กว่า 423 ล้านบาท มั่นใจการดำเนินงานเป็นไปตามแผน เร่งขับเคลื่อนทุกหน่วย เชื่อมั่นเห็นผลเป็นรูปธรรม
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 24,993 ล้านบาท โดยขณะนี้เบิกจ่ายงบประมาณแล้ว 4,060 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.25 ประกอบด้วย 2 แผนงาน รวม 22 โครงการ โดยผลการดำเนินงาน ณ เดือนมิถุนายน 2561 พบว่า มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว 1.7 ล้านราย สร้างรายได้แก่เกษตรกรและประชาชนรวมกว่า 423 ล้านบาท โดยแต่ละแผนงานมีความก้าวหน้าภาพรวม ดังนี้
สำหรับแผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
1) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำระดับชุมชนมีการสร้างฝายชะลอน้ำแล้วรวม 255 แห่ง พัฒนาแหล่งน้ำสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และซ่อมแซมระบบชลประทานแล้วรวม 32 รายการ
2) การปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อลดความเสี่ยง สนับสนุนเกษตรกรทำกิจกรรมเกษตรอื่นทดแทนการทำสวนยาง รายละไม่เกิน 10 ไร่ จำนวน 30,000 ราย รวมทั้งฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้ในการประกอบอาชีพใหม่ ได้รับอนุมัติแล้ว 14,893 ราย พื้นที่ 94,660 ไร่ เกษตรกรรับเงินงวดที่ 1 จำนวน 1,620 ราย อบรม 2,739 ราย
3) พัฒนาการผลิตพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และพัฒนาเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกร 1,049 ราย จัดเวทีชุมชนเพื่ออบรมการสร้างทักษะและส่งเสริมอาชีพแล้ว 4.71 แสนราย ขยายฐานการผลิตจุลินทรีย์ให้กลุ่มเกษตรกร 17 กลุ่ม รวม 8.33 ล้านบาท อบรมอาสาผสมเทียม 3,800 ราย อบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชให้เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ 2,372 ราย
4) แก้ไขปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร มีการพัฒนาอาชีพด้วยการฝึกอบรมเกษตรกรแล้ว 5,038 ราย อบรมการทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพแก่เกษตรกรแล้ว 6,857 ราย ครูอาสา 361 ราย อบรมและพัฒนาสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รับสมัครและคัดเลือก Young Smart Farmer (YSF) 2,984 ราย
และ 5) บริหารจัดการสินค้าเกษตรและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อพัฒนาสถาบันเกษตรกรในการจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร (แก้มลิง) มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ 143 แห่ง สนับสนุนอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรแก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เพิ่มศักยภาพการรวบรวมและการแปรรูปยางพาราในสถาบันเกษตรกร 62 แห่ง รวมทั้งส่งเสริมการใช้ยางในด้านชลประทาน โดยนำยางพารามาซ่อมแซมและปรับปรุงคันคลองชลประทาน 317 โครงการ มีการรับซื้อน้ำยางสดแล้ว 3,952 ตัน แปรรูปเป็นน้ำยางข้น 1,880 ตัน สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร 371 แห่ง 8,503 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และ SMEs โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีผู้ประกอบการและเกษตรกรได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านอุตสาหกรรมแปรรูปแล้ว 529 ราย วิสาหกิจสมัครเข้าร่วมโครงการ 747 กิจการ และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมบูรณาการในการจัดทำตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วมประชารัฐเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค โดยจัดอบรมแล้ว 882 ราย
แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตอบรมเพิ่มทักษะอาชีพแก่เกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ มีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการ 131,204 ราย อบรมแล้ว 12,107 ราย และจ้างงานชลประทานเพื่อสร้างรายได้ในการปรับปรุงโครงการชลประทาน ดำเนินการแล้ว 119 รายการ จ้างแรงงาน 6,426 ราย
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานอยู่ในช่วงฤดูฝนซึ่งตรงกับฤดูทำนาทำให้การจ้างแรงงานชลประทานในบางจังหวัดไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะต้องขยายเวลาการดำเนินงานออกไปตามสภาพพื้นที่ ขณะที่การฝึกอบรมบางแห่งอาจต้องปรับย้ายสถานที่จัดอบรมโครงการเพิ่มทักษะอาชีพให้ไปอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับกลุ่มเกษตรกรมากขึ้นและทำการอบรมหลังช่วงฤดูเพาะปลูกให้เหมาะสมต่อไป รวมทั้งควรติดตามให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างแก่สถาบันเกษตรกรอย่างต่อเนื่องเพราะไม่มีความชำนาญในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในช่วงแรก (พ.ค. – มิ.ย.61) นับว่ายังอยู่ในระยะขั้นต้นของการเตรียมการในกระบวนการต่างๆ ตามแผนที่กำหนด และจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้นในระยะต่อไป ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ จะเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าหากดำเนินการแล้วเสร็จตามโครงการทั้งหมด จะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ถึง 4.3 ล้านราย ก่อให้เกิดการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 63,599 ล้านบาท (2.54 เท่าของงบประมาณ) ช่วยให้เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 35,304 ล้านบาท/ปี
เศรษฐกิจฐานราก / ชุมชน : กระทรวงเกษตรเผยผลโครงการไทยนิยม 2 เดือนแรก เชื่อมั่นเห็นผลเป็นรูปธรรม
business highlight online : post 12 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.02 น.