กรมสรรพากรเปิดตัว e-Stamp Duty ตีตราสารผ่านเน็ต

4177

business highlight online : กรมสรรพากรเปิดตัว e-Stamp Duty ทำธุรกรรม 5 ประเภท ไม่ต้องติดอากรแสตมป์แบบเดิม

กรมสรรพากรยกระดับบริการจัดทำระบบการชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ อ.ส.9 หรือ e-Stamp Duty รองรับการทำธุรกรรม 5 ตราสารอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มความสะดวก ลดขั้นตอนการจัดทำเอกสารด้วยกระดาษ ประหยัดการเดินทางให้กับผู้ประกอบธุรกิจ

นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “กรมสรรพากรได้ผลักดันกระบวนการทำงานโดยใช้ Digital มากขึ้น โดยเปิดกว้างการให้บริการผ่านระบบ Open API เพื่อให้เข้าถึงบริการที่รวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ระบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ อ.ส.9 หรือ e-Stamp Duty ถือเป็นระบบที่ช่วยให้การชำระอากรแสตมป์เป็นเรื่องง่าย ลดปัญหาความยุ่งยากในการเดินทางไปชำระอากรแสตมป์ และการคำนวณอากรแสตมป์ผิดพลาด เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น

ผู้มีหน้าที่เสียอากรที่ประสงค์จะนำตราสารที่สามารถชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถยื่นคำขอผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและชำระค่าอากร ก่อนกระทำตราสารหรือภายใน 15 วัน นับแต่วันถัดจากวันกระทำตราสารโดยไม่เว้นวันหยุดราชการ และชำระเงินค่าอากรโดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Payment) ทั้งนี้ ต้องเป็นตราสารที่จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ประกอบด้วยตราสาร ๕ ลักษณะ ได้แก่

1.จ้างทำของ

2.กู้ยืมเงินหรือการตกลงให้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคาร

3.ใบมอบอำนาจ

4.ใบมอบฉันทะสำหรับให้ลงมติในที่ประชุมของบริษัท

5.ค้ำประกัน

สำหรับการยื่นขอเสียอากรเป็นตัวเงิน ตาม “แบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์” (อ.ส.9) โดยผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร ที่ www.rd.go.th > e – Filing > ระบบขอเสียอากรแสตมป์ เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังสามารถยื่นผ่านทาง Application Programming Interface (API) ของกรมสรรพากร ซึ่งระบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์จะเปิดให้บริการเฉพาะการขอเสียอากรฉบับปกติภายในกำหนดเวลา หากต้องการขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารที่เกินกำหนดเวลาหรือยื่นแบบเพิ่มเติม ต้องยื่นด้วยแบบ อ.ส.4, อ.ส.4ข ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา”

โฆษกกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อผู้ยื่นขอเสียอากรด้วย e – Stamp Duty โอนเงินค่าอากรเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากรแล้ว เมื่อกรมสรรพากรได้ออกรหัสรับรองการเสียอากรแสตมป์พร้อมใบเสร็จรับเงินตามจำนวนเงินค่าอากร และเจ้าหน้าที่รับชำระเงินได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้เสียอากรแล้ว ถือว่าตราสารตามรายการข้อมูลในแบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ (อ.ส.9) ได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์แล้ว”

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร.1161

Advertising