รัฐบาลพอใจ เปิดขายสลากดิจิทัลวันแรกผ่านแอป “เป๋าตัง” คึกคัก

180

business highlight online : 2 มิถุนายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภาพรวมการขายสลากดิจิทัลวันแรก ผ่านแอป “เป๋าตัง” เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. ระบบเป็นไปได้ดี ไม่มีเกิดปัญหาอย่างที่หลายฝ่ายกังวล ยอดการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลภายใน 1 ชั่วโมง มีสลากฯขายได้แล้วจำนวน 79,800 ใบ เฉลี่ยความรวดเร็วจากการขายสลากฯ สามารถขายสลากฯได้จำนวน 1,330 ใบ  ทุก 10 นาที  จากร้านค้า 10,104 ร้าน จากร้านค้าในระบบทั้งหมด 10,354 ร้าน

นายธนกร กล่าว่า จากการประเมินความต้องการซื่อสลากผ่านแอป “เป๋าตัง” ซึ่งมีสลากอยู่ในระบบจำนวน 5 ล้านใบเศษ ถ้าสามารถขายสลากฯได้ดังข้างต้น คาดว่าสลากฯ จะขายหมดภายใน 5-7 วัน ซึ่งจะทำให้สลากฯขายหมดเร็วกว่าการเดินขายปกติ ถือได้ว่าได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อสลากฯเป็นอย่างดี

“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจต่อภาพรวมการขายสลากดิจิทัล ขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และทุกภาคส่วนที่ช่วยกันขับเคลื่อนเดินหน้าแก้ไขปัญหาการขายสลากฯแพงจนสำเร็จเป็นรูปธรรม ในระยะต่อไปขอให้ช่วยกันผลักดันให้สลากฯอยู่ในระบบแอป “เป๋าตัง” ให้เพิ่มมากขึ้น รองรับความต้องการซื้อของประชาชน พร้อมกับเน้นย้ำระบบแอพพลิเคชันอย่าให้เกิดปัญหา ทั้งการซื้อ ขาย และขึ้นเงินเมื่อถูกรางวัลสลาก” นายธนกร กล่าว

ก่อนหน้านี้ เมื่อวาน 1 มิถุนายน 2565 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ชั้น 3  อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงต่อผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาว่า การดำเนินมาตรการต่างๆคืบหน้าไปมาก  โดยโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์ม “สลากดิจิทัล”  มีตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล จำนวน 10,258 ราย  และในเบื้องต้นจะมีสลากจำนวน  5,279,500 ฉบับ พร้อมที่จะจำหน่ายในวันพรุ่งนี้ ผ่านแอปเป๋าตัง  ซึ่งการจำหน่ายสลากดิจิทัล เป็นการจำหน่ายโดยตัวแทนรายย่อย ที่รับสลากจากสำนักงานสลากฯโดยตรง  สลากทุกใบเป็นของตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อ จะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ ให้กับตัวแทนรายย่อยอีกด้วย  ทั้งนี้  เมื่อชำระค่าสลากเรียบร้อยแล้ว กรรมสิทธิ์ในสลากจะตกเป็นของผู้ซื้อ จะไม่สามารถนำไปซื้อ-ขายได้อีก  ถือว่ามีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งในเรื่องกรรมสิทธิ์ และเรื่องการรับเงินรางวัล

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มแล้ว  ยังมีความคืบหน้า โครงการจุดจำหน่าย “สลาก 80” ซึ่งขณะนี้  เปิดให้บริการแล้ว 362 จุด ใน กทม. ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก  และได้มีการทำสัญญาตัวแทนจำหน่ายภาคเหนือ และภาคใต้ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น ในงวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป  จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ครบทุกจังหวัด  และหลังจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะเรียกผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละจังหวัด โดยกำหนดสัดส่วนของจุดจำหน่ายที่เพิ่มเติมในแต่ละจังหวัดตามจำนวนของประชากรในพื้นที่ และให้เพิ่มเติมจุดจำหน่ายในเขต/อำเภอที่มีจำนวนของผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกลำดับสำรองโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย เพื่อให้มีจุดจำหน่ายสลากครบ 1,000 จุด ทั่วประเทศตามที่สำนักงานสลากฯ ตั้งเป้าหมายไว้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันพร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาสลากในทุกๆด้าน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ทั้งการตรวจสอบการเบิกสลาก ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ เพื่อป้องปรามและสำรวจการจำหน่ายสลากของคนขายจริง รวมถึง การหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทั้งในระยะยาว  ตลอดจนการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย การปรับปรุงบทลงโทษ การนำมาตรการทางแพ่ง อาญา และกฎหมายอื่นๆ มาประกอบการพิจารณา รวมถึงการศึกษาหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เพื่อให้ได้ข้อสรุปมาประกอบการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ร่วมกับมาตรการต่างๆของสำนักงานสลากฯต่อไป

Advertisement