สมาคมเอทานอล เสนอเปิดเสรี – ยกเลิกโซฮอล์ 91

230

business highlight online : 24 กรกฎาคม 2565 สมาคมเอทานอล เสนอเปิดเสรีเอทานอล เลิกจำกัดผลิตได้เฉพาะเชื้อเพลิง และควรยกเลิกโซฮอล์ 91 เพื่อผลักดันยอดใช้เอทานอล​รองรับอีวีบุกยานยนต์​ ชี้ผลดีตกอยู่กับคนไทย พึ่งตนเอง ลดความผันผวนตลาดโลก

นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล หรือ UBE และนายกสมาคมเอทานอลจากมันสำปะหลัง เปิดเผยว่า สมาคมฯเตรียมเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อเสนอให้ผลักดันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน โดยยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 รวมทั้งเพิ่มส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 เพื่อกระตุ้นการใช้ คาดว่าจะช่วยให้ปริมาณการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มเป็น 6-7 ล้านลิตรต่อวัน รวมทั้งได้หารือกับทางกระทรวงการคลังขอให้เปิดเสรีอุตสาหกรรม​เอทานอล​เพื่อให้นำไปใช้ในเกรดอุตสาหกรรม, เกรดยาได้ด้วยจะช่วยทดแทนการนำเข้าแอลกอฮอล์​ได้ 70 ล้านลิตร/ปี โดยปัจจุบัน​โรงงานเอทานอลถูกจำกัดผลิตเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง​เท่านั้น ในขณะที่​หากจะนำไปผลิตแอลกอฮอล์​เกรดทำความสะอาดทางการแพทย์​ ก็ต้องขออนุญาต​ผลิตเป็นครั้งคราว

“ในขณะนี้รัฐบาล​เดินหน้าส่งเสริมอีวีที่จะมาทดแทนกลุ่มแก๊สโซฮอล์​ก็จะกระทบเอทานอลและเกษตรกรผู้ปลูก​อ้อยและมันสัมปะหลังตามไปด้วย ดังนั้นข้อเสนอยกเลิกแก๊สโซฮอล์ ​91ให้อี 20 เป็นตัวหลักและเปิดเสรีเอทานอลก็จะช่วยให้เกิดการใช้วัตถุ​ดิบในประเทศเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ​ช่วยลดความผันผวนจากราคาน้ำมันโลก” นายกสมาคมเอทานอลจากมันสำปะหลัง ระบุ

ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานเอทานอลทั้งจากมันสำปะหลังและกากน้ำมัน (โมลาส) รวม 27 แห่ง กำลังการผลิตรวมประมาณ 7 ล้านลิตรต่อวัน โรงงานที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในอดีตที่ส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพช่วยสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางพลังงานในช่วงราคาน้ำมันผันผวน โดยขณะนี้ราคาเอทานอลอยู่ที่ 27.54 บาทต่อลิตร ใกล้เคียงกับราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นฯ เนื่องจากในช่วงนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง เทียบกับในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ราคาน้ำมันดิบ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาหน้าโรงกลั่นจะอยู่ที่ 33 บาทต่อลิตร

ส่วนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มเบนซิน มีปริมาณการใช้รวม 30 ล้านลิตรต่อวัน แบ่งเป็น E20 ประมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน, E85 ประมาณ 1 ล้านลิตรต่อวัน แก๊สโซฮอล์ 95 ประมาณ 5-7 แสนลิตรต่อวัน และที่เหลือเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 และน้ำมันเบนซิน

อย่างไรก็ตามสมาคมฯ ยังมีแผนที่จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาต่อยอดการใช้งานเอทานอล เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงในกลุ่มอื่นๆ ในอนาคต อาทิ ไบโอพลาสติก ยา เชื้อเพลิงของเครื่องบิน สารสกัดต่างๆ เป็นต้น เชื่อมั่นว่าความร่วมมือผนึกกำลังของทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคเกษตรกร เพื่อแลกเปลี่ยน บูรณาการ สนับสนุน และส่งเสริมการดำเนินการให้ไปทิศทางเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ จะเป็นจุดแข็งที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเอทานอลให้เติบโตแบบองค์รวมได้อย่างยั่งยืน

Advertisement