“กอบศักดิ์” ชี้ตลาดทุนต้องการรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ ช้าหน่อย ก็รอได้

107

business highlight online : 19 สิงหาคม 2566 “กอบศักดิ์” ชี้ตลาดทุนต้องการรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ แต่หากช้าก็รอได้ เพราะเศรษฐกิจไทยยังเดินได้จากท่องเที่ยว พร้อมเสนอแนวทางขับเคลื่อนตลาดทุนทันทีที่ได้รัฐบาล

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ส.ค.นี้ว่า ตลาดทุนขอเป็นกำลังใจให้สามารถโหวตนายกฯ ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่หากยังไม่สำเร็จก็ยังมีเวลาสามารถรอได้ เพราะต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมาขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ

ทั้งนี้ ตลาดทุนไทยได้เตรียมเสนอแนวทางขับเคลื่อนตลาดทุนไทยต่อรัฐบาลใหม่แล้ว โดยเฉพาะการส่งเสริมและการให้สิทธิประโยชน์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการออมในระยะยาว ทั้งนี้ จะมีการออมระยะสั้นด้วย เพื่อให้สามารถนำเงินเอาออกมาใช้ได้ก่อน ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน

อย่างไรก็ตาม นับว่าขณะนี้ไทยมีความโชคดีที่เศรษฐกิจยังไปได้จากการท่องเที่ยวที่กลับมาเป็นตัวขับเคลื่อน โดยที่รัฐไม่ต้องทำอะไรมาก ด้วยใจรักที่จะมาเที่ยวประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้สามารถเดินไปข้างหน้าได้ เพราะฉะนั้นหมายความว่าระหว่างที่รอให้ได้นายกรัฐมนตรี เศรษฐกิจไทยยังเดินหน้าต่อได้ โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้เข้าสู่ไฮซีซั่น

ที่สำคัญขณะนี้นักลงทุนทั่วโลกกำลังมองว่าในระยะยาว Fundamental ของประเทศไทย Fundamental ของอาเซียนคือคำตอบ อาเซียนคือสาวงามที่ต้องมาลงทุนให้ได้ จากปัญหาที่เกิดขึ้นในจีน อเมริกา รัสเซีย และยุโรป ทำให้เกิดคำถามกับพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจอย่างจีน ยุโรป และแม้กระทั่งอเมริกา หลายคนจึงพยายามหาพื้นที่ที่เป็นกลางพื้นที่ที่สงบ และอาเซียนก็คือคำตอบ จะมีเงินจำนวนมากเขามาลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้า อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าประเทศไทยจะเติบโตอย่างช้าๆ สู้คนอื่นไม่ได้ แต่การที่เราอยู่ในสังคมโลก สังคมอาเซียนที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วจะเป็นแต้มบวก เมื่ออาเซียนโต บริษัทจดทะเบียนของเราที่อยู่ในต่างประเทศจำนวนมากก็จะโตเช่นเดียวกัน ซึ่งไทยที่มีบริษัทอยู่ในอาเซียนเยอะที่สุด ดังนั้น fundamental ที่กำลังดีขึ้นอาเซียน จะส่งอานิสงส์มาที่ประเทศไทย โดยหากก้าวข้ามช่วงๆไปได้ในระยะยาวก็จะได้รับผลตอบรับที่ดี

“ปีสั้นๆ จะยังมีปัญหาอยู่ เช่น ในปี 65 กำไร บจ.ลดลง 7% ครึ่งปีแรก ปี 66 กำไรก็ลดลง 7% เช่นกัน เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของโลก ถ้าโลกไม่ดีเราก็ไม่ดีตามไปด้วย แต่การลดลงเท่านี้หมายความว่าทุกคนยังสามารถบริหารจัดการตนเอง และรับมือกับปัญหาได้อยู่ และหมายความว่า fundamental longterm ของไทยยังไปได้อยู่” ดร.กอบศักดิ์ กล่าว

Advertisement