นายกฯ พบบีโอไอ พร้อมดันโครงการที่มีประโยชน์ต่อภาพรวมประเทศ

134

business highlight online : 7 กันยายน 2566 ที่พรรคเพื่อไทย – นายกฯ พบบีโอไอ หารือเร่งผลักดันส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ยืนยันจะผลักดันโครงการที่มีประโยชน์ต่อประเทศภาพรวม ให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ​​รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี ​​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านนโยบายการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย หารือกับนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เกี่ยวกับการเดินหน้าการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลงทุนจากต่างประเทศและการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในไทย (FDI) ต้องใช้ระยะเวลานาน หากไม่เริ่มดำเนินการในวันนี้ จะเห็นผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยในอีก 2-3 ปี จึงต้องเร่งทำงานทันที พร้อมทั้งต้องเร่งเตรียมการเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 18-24 กันยายน 2566 กับบีโอไอ ซึ่งต้องพบปะกับนักธุรกิจจากหลากหลายประเทศ วันนี้ทางบีโอไอเข้ามาให้ข้อมูล เพื่อจะได้เร่งเดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการลงทุนในไทย ยืนยันว่า โครงการใดที่มีประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม จะผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการรอพิจารณา จะรับฟังข้อมูลต่อเนื่องเพื่อทำงานร่วมกันต่อไป

สำหรับภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในไทย ในปี 2561 – มิถุนายน 2566 กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่ารวม 1.8 ล้านล้านบาท โดยพบว่า ประเทศญี่ปุ่นมีการขยายการลงทุนเพิ่มต่อเนื่องในกลุ่มบริษัทเดิม และจีนมีการขยายลงทุนต่อเนื่องในกลุ่มบริษัทใหม่ ส่วนภาพรวมการลงทุนในไทย ยังมีโครงการที่รอการพิจารณาโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 29,862 ล้านบาท และโครงการที่รอพิจารณาตาม พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ 21 โครงการ

Advertisement