Business Highlight Online : 12 มกราคม 2567 เมืองทองธานี – นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบฯ 68 ย้ำต้องตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล ย้ำเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ให้สำเร็จ ลั่นค่าแรงขั้นต่ำปี 67 ต้องทะลุ 400 บาท มั่นใจ “แลนด์บริดจ์” ทำ GDP ไทยโต 5.5% ต่อปี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา มอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 แก่ส่วนราชการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและความต่อเนื่องของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2568 การใช้จ่ายในภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลจะต้องอาศัยการทำงานบูรณาการกันเป็นอย่างมาก และมีความเชื่อมโยงหลายส่วน ดังนั้น ในการจัดทำงบประมาณ ขอให้สำนักงบประมาณติดตามทั้งตัวชี้วัดของหน่วยงานและงบประมาณที่ขอ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และจะต้องตอบโจทย์รัฐบาล เพื่อให้การจัดทำงบประมาณตอบโจทย์ความต้องการและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด และยังย้ำด้วยว่า นโยบายที่ดำเนินการภายในรัฐบาลจะต้องชัดเจน จับต้องได้ เพื่อให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ภาษีประชาชนจะถูกใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศ
ในการมอบนโยบาย นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึง “นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต” ที่เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะผลักดันให้สำเร็จ แม้ว่าในขณะนี้รัฐบาลจะเดินหน้าออกพระราชบัญญัติกู้เงิน แต่ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ลืมที่จะต้องมีงบประมาณเผื่อไว้ในกรณีที่ต้องใช้พัฒนาและดำเนินโครงการด้วย โดยขอให้ตั้งงบประมาณอย่างสมเหตุสมผล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเป้าหมายแรงงาน โดยยืนยันว่า จะผลักดันนโยบายค่าแรงขั้นต่ำให้สำเร็จ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท ภายในปี 2570 โดยในปี 2567 นี้จะต้องทำค่าแรงขั้นต่ำให้มากกว่า 400 บาทให้ได้ พร้อมมั่นใจว่า ทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้จะทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน พร้อมกล่าวถึงเป้าหมายด้านการเกษตร ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิมากขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปีนี้
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางถนน ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ พร้อมรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และ “โครงการแลนด์บริดจ์” เป็นหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อใช้จุดแข็งของภูมิศาสตร์ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการคมนาคมที่สำคัญ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของการขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา โดยคาดว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างงานได้ 280,000 ตำแหน่ง และ GPD ประเทศจะโตปีละ 5.5% จึงมั่นใจว่า โครงการนี้จะมีประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล และขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันสนับสนุนและผลักดันไปด้วยกัน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเป้าหมายความเป็นอยู่ของประชาชน โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะทำนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าของประชาชน 20 บาทตลอดสายให้สำเร็จ และจะพัฒนาระบบฟีดเดอร์ เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีม่วงให้มากขึ้น พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะเดินหน้าทำส่วนอื่นๆ ให้สำเร็จ เพื่อให้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เกิดขึ้นได้จริงสำหรับประชาชน
ส่วนเป้าหมายด้านกองทัพและความมั่นคง นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ารัฐบาลจะพัฒนากองทัพให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาศักยภาพประเทศและประชาชน ทำทหารให้เป็นทหารอาชีพ ลดกำลังพลและงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ เปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารให้เป็นสมัครใจ ให้มีนัย และทำให้ทหารใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น ช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ เช่น บรรเทาสาธารณภัย ความยากจน และที่ทำกิน
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำเรื่องการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย โดยจะทำประชามติเพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ ดับชนวนความขัดแย้งใหม่ในสังคมให้ได้ เพื่อมุ่งหน้าทำให้ประเทศไทยมีหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง