นายกฯสั่ง “สุมหัว” เร่งสร้างมั่นคง-มั่งคั่งภูเก็ต

79

Business Highlight Online : 19 เมษายน 2567 บช.ภ. 8 ภูเก็ต – นายกฯ มอบนโยบาย หน.ส่วนราชการภูเก็ต สั่ง “สุมหัว” เร่งสร้างความมั่นคง ต่อยอดสู่ความมั่งคั่ง อย่าให้มีน้ำผึ้งหยดเดียวทำการลงทุนแสนล้านเสียหาย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบนโยบายผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 โดยนายกรัฐมนตรี รับฟังรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และเรื่องที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 17,730 นาย แต่มีที่พักเพียง 8,500 ห้อง โดยได้รับปีงบประมาณปี 2567 – 2568 มาปรับปรุงที่อยู่อาศัย  ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าต้องการให้ใช้โมเดลเดียวกับที่พักข้าราชการตำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ขณะที่การดำเนินการกวดขันจับกุมชาวต่างชาติ ที่กระทำผิดกฏหมาย ปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตราว 1 ล้าน 4 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติรัสเซียมากที่สุด ซึ่งพบผู้กระทำผิดที่เป็นชาวต่างชาติ และมีการดำเนินคดีเพิกถอนการอยู่ต่อตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบันจำนวน 98 ราย พบเป็นชาวจีนและเมียนมา นอกจากนี้ ยังตั้งศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ศปปธ.) พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลบริษัทต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต พบว่ามีชาวต่างชาติถือหุ้นจำนวน 10,291 บริษัท มีลักษณะต้องสงสัย มีพิรุธ จดทะเบียนหลายบริษัทในที่ตั้งเดียวกัน จำนวน 169 เป้าหมาย รวมถึงยังรายงานสถานการณ์การลักลอบ นำเข้ายางพาราเข้าประเทศ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566  –  31 มีนาคม 2567 กว่า 67,445 กิโลกรัม และปาล์มน้ำมัน 8,180 กิโลกรัม การจับกุมกวาดล้างแก๊งค์เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มนายทุนหนุนหลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนระนอง

ภายหลังฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายว่า ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี มาภูเก็ตครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว รัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาภูเก็ตลำดับต้นๆ ต้องพัฒนาการท่องเที่ยว เพราะถ้าไม่มีความมั่นคง ความมั่นคั่งจะพังทลาย ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรัง 6 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมได้จำนวนมาก แต่ปัญหายาบ้าไม่ลดลง ที่ตั้ง KPI ถือว่าต่ำไปมาก ต้องจัดการให้มากกว่านี้ ที่จับกุมมาคือรายเล็ก ทำไมไม่จับรายใหญ่

“ส่วนการพนันออนไลน์ ประชาชนเดือดร้อน ตัวเลขจับกุมยังน้อยอยู่ ขอให้เร่งจับกุมต่อไป หนี้นอกระบบก็เป็นปัญหาเรื้อรัง เป็นมะเร็งร้ายของสังคม เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ อยากให้ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง จัดตลาดนัดแก้หนี้ อย่าให้มีการข่มขู่ลูกหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังที่ผมเป็นรัฐมนตรีอยู่ จะเข้ามาช่วยดูแลเกี่ยวกับกระแสเงินสด เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ถ้าจบการสัมมนาวันนี้แล้ว ขอให้ไปสุมหัวกันแล้วช่วยกันคิดว่าทำให้แข็งแรงขึ้นอย่างไร ขณะที่เรื่องยางพาราก็เป็นเรื่องสำคัญ ชายแดนไทยติดพม่า2,000 กว่ากิโลเมตร ด่านใหญ่สามารถสกัดอยู่ เขาจึงลักลอบนำเข้ายางเถื่อนตามตะเข็บชายแดน จึงขอให้เข้มแข็งขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การป้องกันการกระทำผิดของคนต่างชาติเป็นเรื่องสำคัญ มีเครือข่ายด้านธุรกิจทำตัวนอกเหนือกฎหมาย ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลลงทุนที่ภูเก็ตเป็นแสนล้าน แต่ถ้ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสมกรณีเดียวจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทำมาหากินอย่างไม่ถูกต้อง ที่ลงทุนไปจะพังพินาศได้ ขอให้ช่วยกันดูให้ดี เพราะเราลงทุนไปสูง ไม่อยากให้น้ำผึ้งหยดเดียวเป็นปัญหาให้เรื่องที่เราทำต้องเสียหาย ฝากสส.เป็นหูเป็นตา อย่าให้การลงทุนสูญเปล่า

“มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อเหตุทะเลาะในสวนน้ำแห่งหนึ่งในภูเก็ตเข้ามา แต่เรื่องเงียบไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เรื่องเงียบไม่ได้ลงหนังสือพิมพ์ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงปกปิดไม่มิด ใครที่เกี่ยวข้องไปเอาความจริงมาให้ได้ เพราะเรื่องไปอยู่ที่รัฐสภาแล้ว ต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่าจับแต่รายย่อย จับรายใหญ่ให้ได้ สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก ว่าไทยบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง เป็นธรรมเคร่งครัด การพัฒนาจ.ภูเก็ต มีเรื่องที่หนักใจคือการประกอบธุรกิจโรงแรมที่ผิดกฎหมาย เป็นความโชคไม่ดีของฝ่ายความมั่นคงที่เป็นปลายน้ำ มาดูแลใบอนุญาตที่ไม่ถูกต้อง ดูแลเรื่องทางหนีไฟ ถ้าเกิดเหตุเดี๋ยวเป็นประเด็นอีก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ตนได้คุยกับนายฉัตรชัย จะเอาน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลานผ่านจังหวัดกระบี่ พังงา ให้มาใช้ที่ภูเก็ต ลดการขาดแคลนน้ำ ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวไม่มีใบขับขี่แล้วใช้พาสปอร์ตเป็นหลักฐานการเช่ารถ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมทำให้ไม่มีเอกสารยืนยัน อาจจะถูกมองว่าเราเข้มเกินไป กลัวนักท่องเที่ยวไม่พอใจ แต่ยืนยันว่ากฎหมายต้องมาก่อน ไม่เช่นนั้นนักท่องเที่ยวจะไม่ทำตามกฎหมาย และว่า “ถ้าเขาจะไม่มา เพราะเราเข้มข้นก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่มีคุณภาพ เราต้องการนักท่องเที่ยวที่เคารพกฎหมายของประเทศไทย”

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมเพศกลางทะเลที่หาดป่าตอง จะดำเนินการอย่างไร ว่า เป็นเรื่องของความเหมาะสม ต้องเคารพวัฒนธรรมที่ดีของไทย หากทำผิดต้องสั่งลงโทษทันที ไม่มีข้อยกเว้น

ส่วนการผลักดันให้จ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือข้อเสนอดังกล่าว หากได้รับจะต้องพิจารณาว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษคืออะไร แต่ต้องดูว่าหากเป็นโรงงานอุตสาหกรรมอาจไม่เหมาะสม เพราะเราเน้นเรื่องการท่องเที่ยว หากจะยกระดับจ.ภูเก็ตธุรกิจที่ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวก็ยินดี

เมื่อถามย้ำว่า หากจะยกเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะด้านท่องเที่ยวจะสามารถทำได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ต้องยกระดับ เพราะเกาะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีศักยภาพสูง เราจะยกระดับขึ้นไปอีก ซึ่งการสร้างเศรษฐกิจพิเศษต้องไม่เป็นภัยกับการท่องเที่ยว ถ้าเป็นไปได้อาจต้องเป็นเศรษฐกิจพิเศษเชิงวัฒนธรรมประเพณี ซึ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมพื้นบ้านและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

ส่วนการนำน้ำมาจากเขื่อนเชี่ยวหลานมาใช้เพื่อแก้ปัญหาจ.กระบี่ขาดแคลนน้ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพิ่งสั่งการไปในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน และจะมีรายละเอียดที่ชัดเจน ยืนยันเรื่องนี้จะมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง รัฐบาลให้ความสำคัญการยกระดับภูเก็ตโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งประปา ไฟฟ้า ถนนที่ภูเก็ต

เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาจราจรในจ.ภูเก็ต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของสะพานสารสินอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง เพื่อให้เรือยอร์ชวิ่งรอบเกาะได้ ส่วนเรื่องนการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากตัวเมืองไปสนามบินที่บางวันใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง จึงสร้างทางคู่ขนาน ขุดอุโมงค์ สร้างทางเล็ก ๆ ระบายการจราจร มั่นใจว่าการจราจรที่จ.ภูเก็ตต้องดีขึ้น

Advertisement