“มาริษ – กุลิศ” หารือสตาร์ทอัพอิตาลี ดันร่วมศึกษากับ EGAT หวังดันนวัตกรรมใหม่ แปลงน้ำเค็มในทะเล เป็นพลังไฟฟ้าสะอาด

111

Business Highlight Online : 19 พฤษภาคม 2567 “มาริษ – กุลิศ” จับมือ หารือสตาร์ทอัพอิตาลี ดันร่วมศึกษากับ EGAT หวังดันนวัตกรรมใหม่ แปลงน้ำเค็มในทะเล เป็นพลังไฟฟ้าสะอาด แถมด้วยการเจรจาจัดกิจกรรม Joint Venture / Hackathon เสริมพลังให้ SME และ คนรุ่นใหม่ไทย

วันนี้ (19 พฤษภาคม 2567) เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นมิลาน ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายกุลิศ สมบัติศิริ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ร่วมหารือกับตัวแทนจากบริษัทสตาร์ทอัพด้านพลังงานสะอาด สัญชาติอิตาลี ประกอบด้วยนายมานูเอล อูเฟโร่ (Mr. Manuele Aufiero) ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท Sizable Energy และนายอองเดร เจนนารินี่ (Mr. Andrea Gennarini) ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท 2100 Venture โดยนางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดของการหารือดังนี้

นวัตกรรมด้านพลังงานที่ได้รับการจดสิทธิบัตรโดยบริษัท Sizable Energy คือการผสมผสานเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้า “พลังน้ำแบบสูบกลับ” เข้ากับศักยภาพของ “น้ำเค็มในพื้นผิวทะเล” ซึ่งหลักการออกแบบคือการสร้างอ่างเก็บน้ำที่ผลิตจากวัสดุพลาสติกที่มีส่วนประกอบจากวัสดุรีไซเคิลทรงกลมขนาดใหญ่หลายอัน เชื่อมต่อกัน และลอยอยู่บนพื้นผิวของมหาสมุทร โดยมีการใช้พลังลม และพลังแสงแดด ขับเคลื่อนกับอ่างเก็บน้ำปกติที่ได้ทำการแยกเกลือออกไปทำให้น้ำมีน้ำหนักเบากว่าน้ำทะเลกลไกการเคลื่อนย้ายน้ำเกลือทะเลอิ่มตัว ถ่ายเทไป-มาระหว่างอ่างเก็บน้ำแต่ละอัน ก่อให้เกิดพลังงานไฟฟ้าขึ้นมา  ซึ่งกระบวนการทั้งสิ้นไม่ใช้พลังงานฟอสซิล และไม่สร้างมลภาวะใดๆ อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่ดำเนินการในระบบปิด เพื่อให้มีความรัดกุมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ และ นายกุลิศ สมบัติศิริ หารือกับบริษัทฯ ในหลายรายละเอียดและเล็งเห็นถึงศักยภาพของนวัตกรรมดังกล่าว ที่สามารถสร้างพลังงานทางเลือกให้กับประเทศไทยได้ จึงจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปนำเสนอต่อ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) เพื่อให้เกิดการนัดพูดคุย และการต่อยอดสู่การศึกษาความเป็นไปได้ต่อไป

“นอกเหนือจาก การประสานให้ EGAT ของไทยและ Sizable Energy ของอิตาลี ได้จับมือกัน เพื่อหาพลังงานทางเลือกให้กับประเทศไทยแล้ว การหารือครั้งนี้ ยังครอบคลุมไปถึงการหารือความเป็นไปได้ที่ทางเครือข่ายสตาร์ทอัพ และนักลุงทุนของอิตาลี จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยเสริมพลังให้ SME และ คนรุ่นใหม่ ของประเทศไทยได้อีกด้วย เช่น การทำ Business Matching การระดมทุนจาก Angel Investor การก่อให้เกิดความร่วมมือแบบ Joint Venture หรือแม้กระทั่งการจัดกิจกรรม Hackathon เพื่อยกระดับให้คนรุ่นใหม่หัวใจนักพัฒนาด้านเทคโนโลยีอีกด้วย นับว่าเป็นการหารือด้วยระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก” นายกุลิศ กล่าวเสริม

Advertisement