นายกฯ หวังต่างชาติแห่เที่ยวไทยทะลุ 15 ล้านคน

182

business highlight online : 16 ธันวาคม 2565 นายกฯ หวังนักท่องเที่ยวแห่เที่ยวไทยทะลุ 15 ล้านคน บอกทำได้สบายๆ ผู้นำต่างชาติชมเมืองไทย อยากมาท่องเที่ยว ยอมรับทำการตลาดไม่เก่ง-หน้าไม่ยิ้ม แต่ตัวจริงเป็นคนอารมณ์ดี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานที่จัดขึ้นนี้ ทำให้ผู้ประกอบการและธุรกิจท่องเที่ยวได้มีการนำเสนอธุรกิจท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่งให้กับประชาชน รวมถึงมีสินค้าราคาพิเศษเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน และได้ดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง 2-3 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบอย่างมากจากโควิด-19 และเราจะต้องก้าวข้ามผ่านด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนและรัฐบาลที่ได้จับมือกันฝ่าฟันวิกฤตดังกล่าวมาได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่การท่องเที่ยวของไทยได้พลิกฟื้นและกลับมาคึกคักอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำให้บรรยากาศคึกคักมากขึ้น รัฐบาลได้ตั้งเป้าว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะสร้างรายได้ให้ไทย 1.5 ล้านล้านบาท ภายในปีนี้

นายกรัฐมนตรีได้เล่าถึงการเดินทางไปประชุมอาเซียน-อียู ที่ประเทศเบลเยียม ว่า บรรยากาศนั้นแตกต่างจากบ้านเรา เพราะบรรยากาศบ้านเราไม่เหมือนที่ไหนในโลก ไม่ว่าจะเป็นประชาชน สถานที่ท่องเที่ยว ทุกประเทศมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ไม่มีความหลากหลายเหมือนกับของไทย ซึ่งไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ให้คนมาเลือกเที่ยวชม ซึ่งไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 10 ล้านคน ตนได้พูดอย่างภาคภูมิใจกับผู้นำต่างประเทศ ว่านี่คือประเทศไทย เป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม ดินแดนแห่งการท่องเที่ยว ดินแดนแห่งสันติภาพและสันติสุข ทุกคนคาดหวังว่าอยากจะมาเที่ยว ซึ่งผู้นำหลายคนยืนยันว่าจะต้องหาทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยให้ได้ นี่คือสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นคนกำหนดนโยบายและกำหนดแนวทางปฏิบัติจะทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เราจำเป็นต้องปรับการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ทันสมัย มีการบริการที่สะดวก การสัญจรไปมาที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรองเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพ ซึ่งมั่นใจว่าเรามีความพร้อมทุกอย่าง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีของตน ไม่ได้คิดเองทุกเรื่อง แต่อาศัยการเรียนรู้ ดูโทรทัศน์ ดู YouTube ดูจากโปรแกรมการท่องเที่ยวของต่างประเทศ และกลับมาก็มีแนวคิดของตนในการให้แนวทางไปสู่การปฏิบัติ ดังนั้น ทุกคนต้องเปิดกว้าง เราจะทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วในโลกใบนี้ โดยเฉพาะโลกที่กำลังเจริญเติบโตด้วยดิจิทัล ประเทศไทยมีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งธรรมชาติ กีฬา การท่องเที่ยว ด้านสุขภาพ ต้องหาจุดเด่นตรงนี้ให้เจอ เปิดดูจาก YouTube หลายจังหวัดแสดงให้เห็นถึงความพร้อม แสดงให้เห็นถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ทำให้บ้านเมืองสงบ มีเสถียรภาพ มีความปลอดภัย ลดความขัดแย้ง นี่แหละคือประเทศไทยที่จะเจริญเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า

ขอฝากทุกคนว่า เรามีอะไรที่ดีมากอยู่แล้ว ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และมีจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย ดังนั้น สิ่งนี้เราทิ้งไปไม่ได้ จะทำอย่างไรให้หลายคนเดินทางกลับมายังประเทศไทยอีก ซึ่งผู้นำต่างประเทศบอกว่าอยากเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย อยากมาดูว่าเหตุใดคนจึงเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจำนวนมาก ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ เราต้องร่วมมือกันเพื่อก้าวไปข้างหน้า รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งใหม่ๆ ที่ประเทศต้องทำต่อไป ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การใช้ดิจิทัลมาบริหารราชการและการค้าขาย ตนต้องการให้ทุกพื้นที่ ทุกชุมชน ทุกจังหวัด มีรายได้ที่สูงขึ้น ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยตัวเราเอง และรัฐบาลจะหาวิธีการที่เป็นไปได้ และสามารถลดช่องว่างได้ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถให้เปล่าได้ทั้งหมด ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าปีที่ 8 เห็นหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก หลายอย่างเปลี่ยนแปลงด้วยตัวของทุกคน และหลายอย่างเปลี่ยนแปลงด้วยรัฐบาล ทุกคนต้องสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าของแต่ละคน มีการศึกษาทางการตลาดและการออกแบบ เพื่อให้นำไปสู่การจำหน่ายได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะอยู่ ใครจะเป็น ใครจะมา ใครจะไป ประเทศไทยต้องอยู่ได้ ไม่มีตน ก็ต้องมีคนอื่น และต้องเป็นพวกเราทุกคนที่จะชี้ชะตาประเทศไทยเจริญได้อย่างไรในอนาคต เพื่อลูกหลานของท่าน ทั้งนี้ วันนี้อาจจะพูดแรงไป อาจจะเมาเครื่องบิน เพราะเพิ่งเดินทางกลับมาจากยุโรป

“อย่าหาว่าผมเครียดไปเลย แต่ก็เครียดนะ มีงานตั้งแต่เช้า เจอโน่นเจอนี่ ตอบนั่นตอบนี่ ไลน์ไปมาทั้งวัน คือเป็นหน้าที่ ทุกคนมาอยู่กับผมก็ต้องเป็นแบบผม ใครไม่ทำ ก็ใช้ไม่ได้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่สัญญากันไว้ 11.5 ล้านคน ไม่ใช่ 15 ล้าน หรือคาดหวังอะไรมากๆไว้หน่อยก็ดี 11.5 ล้านคน ตนว่าได้แน่ๆ ทำให้ดี บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง ตนคิดว่า 15 ล้านคนสบาย ต่างชาติจับตามองดูอยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำการตลาดไม่เก่ง หน้าตาอาจจะไม่ค่อยยิ้ม แต่เป็นคนอารมณ์ดี

“ผมอาจทำการตลาดไม่เก่ง หน้าไม่ค่อยยิ้ม แต่จริงๆแล้ว ผมเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้หงุดหงิดอะไร เว้นแต่เจอคำถามที่หงุดหงิด ผมเป็นคนอารมณ์ดีจริงๆ แล้วเป็นคนแบบนั้น ตอนนี้คอแห้ง อากาศเย็น และวันนี้ดีใจได้กลับมาตรงนี้อีกครั้ง เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ในการประชุมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทุกคนประทับใจและชื่นชมการทำงานของเราในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ผนึกกำลังสร้างรายได้ให้กับประเทศของเราอย่างยั่งยืน ขอบคุณนักท่องเที่ยวทุกคนที่ช่วยออกมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้ช่วยกันสร้างรายได้อย่างเข้มแข็ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดงาน ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินชมบูธภายในงาน ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการส่งเสียงให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่า “รักลุงตู่ อยากให้อยู่นานๆ” โดยนายกรัฐมนตรีหันมาตอบว่า “รักกันจริงอย่าทิ้งกันนะ”

Advertisement