business highlight online : 17 พฤษภาคม 2566 โฆษกรัฐบาลเผย แนวโน้มบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศไทยปี 2566 คาดการณ์จะเติบโตร้อยละ 31.7 คิดเป็นมูลค่า 5.48 หมื่นล้านบาท รัฐบาลเชื่อมั่นในการสนับสนุนการใช้นวัตกรรมพัฒนาการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์แนวโน้มบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศไทยปี 2566 คาดการณ์จะเติบโตร้อยละ 31.7 จากปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 5.48 หมื่นล้านบาท ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการทำงานรัฐบาลเพื่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 อย่างต่อเนื่อง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญบนระบบออนไลน์มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น โดยหลายหน่วยงานในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจได้ขับเคลื่อนการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านการใช้ระบบคลาวด์ (Cloud) โดยมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจในปัจจุบัน ทำให้การลงทุนในการให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner Inc.) บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก ได้เปิดเผยว่า หลายองค์กรกำลังปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีใหม่มาเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแนวโน้มผู้ใช้ระบบคลาวด์ทั่วโลกในปี 2566 จะเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.7 คิดเป็นมูลค่า 597,325 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับในประเทศไทยนั้น การ์ทเนอร์คาดว่า ตลาดคลาวด์ทุกกลุ่มจะเติบโตสูงขึ้นในปีนี้ และองค์กรธุรกิจในประเทศไทยจะมีปริมาณการใช้จ่ายในบริการคลาวด์สาธารณะในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7 จากปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 5.48 หมื่นล้านบาท
“นายกรัฐมนตรีมีวิสัยทัศน์ เข้าใจกระบวนทัศน์ในการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัล โดยได้กำหนดนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมดิจิทัล และนโยบาย Thailand 4.0 เชื่อมั่นและต้องการให้ประเทศเท่าทันกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงตลาดโลกได้มากขึ้น ซึ่งไทยได้ส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อเปิดโอกาสมากขึ้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมในเอเชีย รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ” นายอนุชา กล่าว
Advertisement