business highlight online : 7 กันยายน 2566 ที่พรรคเพื่อไทย – นายกฯ ยันใช้บล็อกเชนเดินหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ขอยังไม่ตอบแหล่งเงินทุน แย้มได้โฆษกรัฐบาลแล้ว หวังช่วยทำความเข้าใจป้องกันความสับสน ไม่จำเป็นต้องมี ครม.ศก. เน้นคุยเป็นกลุ่มเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าปฏิบัติภารกิจที่พรรคเพื่อไทยเวลา 08.37 น. โดยทันทีที่มาถึงพรรคได้ทักทายกับกลุ่มทหารผ่านศึกที่มารอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีและนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากนั้นนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงที่มาของแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังมีรายงานว่าอาจจะกู้ยืมจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ว่า ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับหลายภาคส่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะนำเงินมาจากไหน
“วานนี้ (6 ก.ย.) ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งให้ข้อคิดมาหลายเรื่อง และให้คำแนะนำว่าหากจะดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในระยะกลางและระยะยาวของประเทศ ระบบการเงินการคลังของประเทศจะเป็นลักษณะไหน เช่น ตัวเลขหนี้สาธารณะ จะขึ้นจะลงอย่างไรท่านเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องมีการพูดคุยให้เกิดความชัดเจน ไม่อยากให้มีการพูดกันไปเอง วันนี้ขอทำการบ้านให้ดีก่อน อย่าลืมว่าวันนี้ผมยังไม่สามารถเข้าบริหารงานได้ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาถึงจะสั่งการได้ วันนี้ขอให้เป็นเรื่องระหว่างการพูดคุยและเก็บข้อมูลก่อน ขอร้องว่าอย่าพูดให้เกิดความสับสน ขอให้ใจเย็นนิดนึงเพราะวันนี้ข้อมูลมาจากหลายภาคส่วน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าจะเป็นลักษณะการออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้ใจเย็น ขอเวลานิดนึง ไม่อยากจะตอบเพราะสื่อนำไปเขียนกันจนเกิดความเข้าใจผิด
เมื่อถามถึงระบบที่จะต้องนำมาใช้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป็นระบบบล็อกเชน และยืนยันว่านโยบายนี้จะดำเนินการได้ในไตรมาสแรกของปี 67
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต่อไปจะมีการประชุม ครม.นอกสถานที่ด้วย แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้นจะกำหนดอีกครั้ง ส่วนการประชุม ครม.เศรษฐกิจ คิดว่าการทำงานในสมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องมานั่งรอกัน เพราะเสียเวลาเตรียมเอกสารที่มีค่อนข้างเยอะ เราใช้การทำงานแบบจับกลุ่มกันพูดคุย จะได้ไม่ต้องมาเตรียมเอกสารกันเยอะแยะ อีกทั้งปัจจุบันก็มีวิธีการสื่อสารหลายวิธี จึงคิดว่า ครม.เศรษฐกิจไม่มีความจำเป็น แต่มั่นใจว่าทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่ทำทุกวันนี้
เมื่อถามว่าการประชุม ครม. นัดแรกในวันที่ 13 กันยายนนี้ นอกจากเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและเรื่องการลดราคาพลังงานแล้ว มีเรื่องอะไรสำคัญอีกบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้อดใจนิดนึงเพราะมีหลายเรื่องมีเรื่องที่เตรียมไว้เยอะมากเราได้ประกาศไปแล้วว่า ครม.นัดแรกจะทำอะไรบ้าง ซึ่งตนจะต้องไปดูว่าวันที่จะเริ่มใช้ได้จริงเมื่อไหร่ ถ้าพูดไปก่อนเดี๋ยวจะเกิดความสับสน ซึ่งในวันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องวาระในการประชุมเป็นการภายใน วันนี้เป็นเรื่องของการเฟ้นหาตำแหน่งบุคคลที่จะมารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าใจว่าได้แล้ว จะได้ไม่ต้องมีความสับสนพูดกลับไปกลับมา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนสับสนได้ ส่วนจะเป็นใครนั้นขอเวลาอีกนิดนึง
เมื่อถามว่านอกจากตำแหน่งโฆษกรัฐบาลแล้ว ตำแหน่งทางข้าราชการการเมืองอื่น ๆ จะพิจารณาแต่งตั้งเลยหรือไม่ในการประชุม ครม.นัดแรก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงมีบางส่วนด้วย เพราะหลายหน่วยงานได้เตรียมไว้แล้วและถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการด้วยเช่นกัน ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่สำคัญ และตนก็จะคุยกับคณะทำงานว่า มีอะไรบ้างที่นายกฯ จะต้องทำ เพื่อมาไล่เรียงลำดับความสำคัญ แต่อยากให้ความชัดเจนก่อนแล้วค่อยแถลงทีเดียว ป้องกันความสับสน
เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีการกำหนดกรอบเวลาการทำงานหรือไม่ว่าใน 100 วันจะเห็นผลงานอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขอพิจารณาก่อน ยังไม่มีการพูดคุยตรงนั้น แต่ยืนยันว่าจะเห็นผลงานอย่างแน่นอน
ส่วนการประชุม ครม.นัดแรกจะมีการแบ่งงานให้กับรองนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น่าจะและกำลังพิจารณาอยู่ซึ่งวันนี้ก็จะเป็น 1 เรื่องที่มีการพูดคุยในคณะทำงาน ส่วนตนเองจะกำกับดูแลเรื่องความมั่นคงด้วยตนเองหรือไม่นั้น เรื่องนี้จะพูดคุยกันที่ประชุม ครม.ครั้งหน้า แต่ย้ำว่าตนเองจะเข้าไปกำกับดูแล ก.ตร.ด้วยตนเอง
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกตนโยบายของพรรคเพื่อไทย มีหลายเรื่องที่หาเสียงไว้แต่ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าขอให้รอดูและฟังจากคำแถลงนโยบาย วันนี้เข้าใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ก็มีหน้าที่อธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ และไม่กังวลหากจะถูกซักและจี้ถามในรัฐสภา เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราอาสาเข้ามาทำงาน ก็ต้องพร้อมถูกตรวจสอบ และถือเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
“ส่วนที่บ่ายวันนี้จะหารือร่วมกับเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI โดยจะหารือในประเด็นการลงทุนระหว่างประเทศว่ามีข้อติดขัดอะไรหรือไม่ เพราะเรื่องการลงทุนกับต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากนั้นจะพบและหารือกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ขอให้สื่อมวลชนมั่นใจว่าเราจะทำงานอย่างเต็มที่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
Advertisement