มือเศรษฐกิจก้าวไกล ชี้นโยบายรัฐบาลเศรษฐา ไม่มีรายละเอียด ไม่มีตัวชี้วัด เวลาไม่ชัด

94

business highlight online : 11 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา – “ศิริกัญญา” แม่ทัพเศรษฐกิจก้าวไกล ชี้คำแถลงนโยบายรัฐบาล ไม่มีรายละเอียด ตัวชี้วัด กรอบเวลาไม่ชัดเจน ไม่ตรงที่สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง หวังอยากเห็นนำแนวทางบริหารสมัยคุม”แสนสิริ” มาปรับใช้ทำงาน

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า การแถลงนโยบายที่ดีจะเป็นการกู้คืนความเชื่อมั่น ความศรัทธาของประชาชนต่อรัฐบาลใหม่ให้กลับคืนมาได้ เป็นโอกาสที่รัฐบาลจะให้คำมั่นว่า 4 ปีข้างหน้า จะนำพาความก้าวหน้ามาให้ประชาชนอย่างไรบ้าง และวิธีการใด ทั้งนี้ คำสัญญาที่เป็นรูปธรรม จะเป็นตัวกำหนดความรับผิดชอบที่มีต่อประชาชน และประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่า ได้ทำสัญญาหรือไม่

“คำแถลงนโยบายรัฐบาลที่ดี ต้องเป็นแบบ Government Policy Statement (GPS) ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงานตลอด 4 ปีนี้ ด้วยวิธีการใด และปฏิบัติเหมือนที่เคยหาเสียงไว้หรือไม่ และไปถึงเป้าหมายเมื่อไร แต่คำแถลงนโยบายไม่แตกต่างจากในเอกสารที่ออกมาก่อนหน้านี้ ถ้าจะบอกว่านี่คือ GPS ประเทศนี้คงหลงทาง เพราะมีแต่ความว่างเปล่า เบาหวิว แทบไม่ได้บอกอะไรเลย มีแต่คำอธิฐานลอยๆ มีแต่คำกล่าวกว้างๆ ขาดความชัดเจนเป้าที่ไปถึง ไม่มีตัวชี้วัดเป็นตัวเลข มีแต่คำขยาย อย่างเหมาะสม อย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างเป็นธรรม” นส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา ได้เปรียบเทียบคำแถลงนโยบายในช่วง 3 รัฐบาลล่าสุด ซึ่งคำสัญญาที่ระบุไว้ในนโยบายต้องมีความชัดเจน ทั้งในเรื่องเป้าหมาย วิธีการ ต้องมีตัวชี้วัดที่เหมาะสมและมีการกำหนดกรอบเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ให้ประชาชนตรวจสอบผลงานได้ว่า เป็นไปตามสัญญาหรือไม่ และที่สำคัญที่สุด ต้องบรรจุนโยบายที่หาเสียงไว้ ถ้าพรรคการเมืองไหนที่ตระบัตย์สัตย์ไม่บรรจุนโยบายที่หาเสียงไว้ โดยปราศจากคำอธิบายที่รับฟังได้ แบบนี้ถือว่า พรรคการเมืองนั้นทรยศความไว้วางใจที่ให้ไว้กับประชาชน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คำแถลงนโยบายรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง อยู่เกรดเดียวกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และที่น่าผิดหวัง รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มาตรฐานตก ไม่ได้รักษามาตรฐานให้ดีแบบที่รัฐบาลของ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ที่มีเป้าหมายชัด มีนโยบายที่เคยหาเสียงบรรจุไว้ทั้งหมด มีกรอบระยะเวลาชัดเจน

“คำแถลงนโยบายรัฐบาล ไม่มีรายละเอียดชัดเจน ไม่มีเป้าตัวชี้วัดที่วัดผลได้ ไม่มีกรอบเวลา และไม่ตรงกับนโยบายที่สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง พร้อมยกตัวอย่าง บางนโยบายเช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท แต่ในคำแถลงระบุแค่ว่า ค่าแรงขั้นต่ำเป็นธรรม และเงินเดือนที่เป็นธรรม หรือนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทก็ไมได้ระบุไว้ในคำแถลงนโยบาย นายกรัฐมนตรีมาจากภาคเอกชน เราก็คาดหวังจะนำแนวบริหารแบบภาคเอกชนมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินในบางเรื่อง แต่ยังไม่เห็นว่า เริ่มใช้ในการแถลงนโยบาย อยากให้คุณเศรษฐาลองนึก ถ้านี้คือ CEO ใหม่กำลังแสดงวิสัยทัศน์กับบอร์ด กำลังแถลงกับนักลงทุน หรือกับที่ประชุมผู้ถือหุ้น เป็นท่านท่านจะฟังต่อหรือลุกเดินหนี” นส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงการแสดงวิสัยทัศน์ของนายเศรษฐา ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแสนสิริ จำกัดมีเป้าหมายและกรอบเวลาชัดเจน และมีตัวเลขชี้วัด และในคำแถลงนโยบายขาดความทะเยอทะยานให้สังคมก้าวหน้าหรือสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง และไม่ค่อยพูดถึงนโยบายที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง หรือความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่กล้าแตะเรื่องยากๆที่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งตอนหาเสียงกล้าหาญกว่านี้มาก สมัยนายเศรษฐาเป็นผู้บริหาร มีแนวคิดสนับสนุนการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก จึงตั้งคำถามว่า ยังมีแนวคิดนี้หรือไม่ หรือเปลี่ยนความคิดไปแล้ว

“การแถลงนโยบายของนายเศรษฐา คล้ายๆกับพลเอกประยุทธ์ เพราะรัฐบาลกลัวการผูกมัด กลัวจะทำไม่ได้ตามที่สัญญา และเหตุผลที่ทำไม่ได้ เพราะเป็นรัฐบาลผสมข้ามขั้วที่นโยบายเป็นคนละขั้ว และหาข้อสรุปไม่ได้ จึงต้องเขียนนโยบายแบบกว้างๆไว้ อีกทั้งที่มาของอำนาจต้องเกรงใจกลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มทุนต่างๆ จึงไม่กล้าทำเรื่องยาก ๆ ที่ต้องปะทะกับใคร” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่จะใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท แหล่งที่มาของงบประมาณจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าใช้งบประมาณแผ่นดินต้องพิจารณาว่างบพอหรือไม่ หรือมีเงินสดพอหรือไม่ หรือหากใช้เงินนอกงบประมาณ จะมี 3 วิธีการคือ กู้ยืมเงินจากธนาคารรัฐ กู้ยืมเงินกองทุนหมุนเวียนหรือไม่ และขายกองทุนวายุภักษ์ หากเลือกใช้งบประมาณ 67 คงไม่เพียงพออย่างแน่นอน เพราะงบที่เหลือจริง ๆที่ ใช้ได้คือ 4 แสนล้านบาท แต่นายกรัฐมนตรีถามพรรคร่วมรัฐบาลอื่นหรือยังที่จะเอางบที่เหลือมาลงกับดิจิตอลวอลเล็ต แต่หากเลือกใช้เงินนอกงบประมาณก็ไม่สามารถทำได้ หากไม่แก้กรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่า จะเคร่งครัดเรื่องวินัยการเงินการคลัง แต่งานแรกจะเริ่มต้นด้วยการทลายกรอบวินัยการเงินการคลังแล้วใช่หรือไม่

“ดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่นอน แต่ขอให้ท่านจัดลำดับความสำคัญให้ดี การบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่การพนัน จะเทหมดหน้าตักแล้วไปหวังน้ำบ่อหน้าไม่ได้ ข้อดีของการแถลงนโยบายแบบกว้างๆ คือท่านทำอะไรได้มากกว่านั้น ท่านยังมีโอกาสอีกครั้งในการแถลงงบประมาณ ถ้าคำแถลงนโยบายคือคำสัญญา 4 ปี คำแถลงงบประมาณก็จะเป็นคำสัญญา 1 ปี ซึ่งตนยังเฝ้ารอในโอกาสหน้า” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

Advertisement