“จุลพันธ์” ยันยังไม่ปรับเกณฑ์แจกเงินดิจิทัลใดๆทั้งสิ้น

133

business highlight online : 14 ตุลาคม 2566 เชียงใหม่ – “จุลพันธ์” ยันยังไม่ปรับเกณฑ์แจกเงินดิจิทัล ล่าสุดตัวเลขคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป มี 54.8 ล้านคน ไม่ถึง 56 ล้านคน ทำให้วงเงินที่ใช้ในโครงการลดลง ถามกลับนักวิชาการคนรวยไม่รวย ดูตรงไหน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าว คณะอนุกรรมการเงินดิจิทัลกำลังพิจารณาปรับเกณฑ์การแจกเงินใหม่ ซึ่งอาจมีการลดวงเงินรวมเหลือ 400,000 ล้านบาท จากเดิมวงเงิน 560,000 ล้านบาท เปลี่ยนเป็นทยอยแจก 10,000 บาท ให้กับผู้มีรายได้น้อย 40 ล้านคน จากเดิมจะแจก ให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน รวม 56 ล้านคน และจะแจกผ่านช่องทางแอปฯ เป๋าตัง แทน ว่าไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น เพราะขณะนี้โครงการยังไม่ได้สรุปรายละเอียดออกมา โดยคณะอนุกรรมการอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อนำมาเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ใน 2 สัปดาห์นี้ และในการประชุมคณะอนุกรรมการยังไม่มีใครพูดถึงการปรับลดวงเงิน ไม่มีใครพูดถึงตัวเลขเงิน 4 แสนล้านบาท เช่นเดียวกับการปรับกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงินก็ไม่มีใครพูดถึง นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่นโยบายสงเคราะห์ใด ๆ ที่เราจะต้องไปดูว่าใครเป็นผู้ยากไร้ที่ต้องเข้าไปช่วย เพราะฉะนั้นจึงต้องกระตุ้นทุกคน กระตุ้นทุกภูมิภาคด้วยกลไกการล็อกระยะทาง

อย่างไรก็ตามเมื่อมีเสียงท้วงติงจากนักวิชาการ ที่เรารับฟังไม่มีเรื่องทำไมต้องให้เงินคนรวย แต่สิ่งที่เรารับฟังคือ คนรวยใช้เงินนี้กระตุ้นเศรษฐกิจหรือใช้เพื่อทดแทนในส่วนที่ใช้อยู่แล้ว ซึ่งได้ให้การบ้านคณะอนุกรรมการไปพิจารณาเงื่อนไขสำหรับกลุ่มคนที่ควรได้รับเป็นอย่างไร เช่น หลักเกณฑ์การดูคนรวยเป็นอย่างไร ดูที่เงินฝาก ที่ดิน หรือการเสียภาษี พร้อมถามกลับนักวิชาการว่ามีข้อเสนอเรื่องนี้อย่างไร ใครรวยไม่รวยดูที่ตรงไหน ไม่อยากไปจำกัดสิทธิ์ใคร รัฐบาลพร้อมรับฟัง

ล่าสุดจากการตรวจสอบตัวเลขคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปมี 54.8 ล้านคน ไม่ถึง 56 ล้านคน ตามที่บอกในตอนแรก ซึ่งทำให้วงเงินที่ต้องใช้ในโครงการนี้มีกรอบเพียง 5.48 ล้านบาท

สำหรับกรณีกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกออกมาเตือนรัฐบาลทั่วโลกให้พยายามรักษาวินัยการเงินการคลังท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกยืนยันว่า รัฐบาลจะรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด แต่ขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการเติบโตสูงกว่าศักยภาพ ปัญหาเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเงินขาดมือ จึงต้องเติมเงินเข้าไปให้ เพื่อให้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายรัฐ แต่ทั้งนี้เงินที่จะให้ไม่ได้โอนผ่านแอปเป๋าตัง แต่จะเป็นแอปใหม่ ที่ไม่ต้องลงทะเบียน แต่ต้องยืนยันตัวตน ยกเว้นคนที่เคยยืนยันตัวตนแล้วกว่า 40 ล้านคน ซึ่งมีฐานข้อมูลเดิมอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายจุลพันธ์ เดินทางมาติดตามกิจกรรมการดำเนินงานรับเกษตรกรเข้าสู่มาตรการพักชำระหนี้ ที่เทศบาลตำบลสันมหาพล อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ มีชาว อ.แม่แตง นำกุหลาบสีแดงมามอบให้ พร้อมป้ายข้อความมารอต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีเยาวชนจำนวนหนึ่งนำป้ายข้อความทวงถามถึงเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งนายจุลพันธ์บอกว่า ได้แน่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

Advertisement