“จุลพันธ์” เผย ให้สถาบันการเงินของรัฐ ทำแอปฯ ดิจิทัลวอลเล็ต ยันไม่สูงถึง 12,000 ล้านบาท

75

business highlight online : 17 ตุลาคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล  – “จุลพันธ์” เผยให้สถาบันการเงินรัฐ ทำแอปฯ จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ปัดใช้งบฯ 1.2 หมื่นล้าน ยันไม่มีคนกลุ่มใดได้ประโยชน์ ซ้ำรอยจำนำข้าว พร้อมหารือกับ ป.ป.ช. นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงงบประมาณในการจัดทำแอปพลิเคชันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินของรัฐ โดยสถาบันการเงินของรัฐจะเป็นผู้พัฒนาระบบ ไม่ใช่บริษัทเอกชนเป็นผู้จัดทำ แต่เป็นธนาคารที่อยู่ในกำกับของรัฐ ขณะนี้กำลังหารือกันอยู่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้ดูแลแอปฯ และค่าใช้จ่าย ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่ได้มีตัวเลขอะไรที่น่าป็นห่วง พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวค่าจัดทำแอปฯ สูงถึง 12,000 ล้านบาท ว่าไม่มีทาง ไม่มีแอปฯ ไหน พัฒนาในราคานั้น

โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวจะเป็นการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็น เป็นเครื่องมือและกลไกใหม่ในการช่วยเหลือประชาชน โดยการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านแอปฯ เป็นการผลักดันเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจภายใต้เงื่อนไขระยะทาง และระยะเวลา โดยห้ามใช้ในสิ่งที่เกี่ยวกับอบายมุข การออม และการใช้หนี้ ทำให้การกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจนและคุ้มค่า ในการช่วยเหลือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราต้องการเม็ดเงินลงในกลุ่มจำเพาะ อาทิ กลุ่มธุรกิจ เอสเอ็มอี กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว

ส่วนสาเหตุที่ไม่เลือกพัฒนาใช้แอปพลิเคชันเป๋าตังที่มีอยู่เดิม นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ฟังก์ชั่นการใช้งานมีความแตกต่างและวัตถุประสงค์ก็แตกต่าง อาทิ การกำหนดเงื่อนไข ข้อมูลต้องอยู่ในระบบบล็อกเชน ซึ่งต้องมีความปลอดภัย และมีกลไกที่โปร่งใส สำหรับโครงการในอดีตนั้น ข้อมูลเป็นของรัฐ แต่ตัวแอปพลิเคชันไม่ใช่ของรัฐ การต่อยอดจึงมีข้อจำกัด อย่างไรก็ตามแอปฯ ใหม่ จะนำข้อมูลของรัฐที่เป็นประโยชน์มาใช้  โดยจะไม่มีการลงทะเบียนใหม่ แต่มีความจำเป็นที่จะต้องยืนยันตัวตน เพราะเป็นไปตามกฎหมายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และเมื่อมีการยืนยันตัวตนแล้ว ก็ให้ยืนยันการใช้สิทธิ์ ซึ่งตรงกับข้อห่วงใยของสังคม จะทำให้สามารถคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาใช้สิทธิ์ได้

นายจุลพันธ์ ยืนยันโครงการนี้ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เป็นโครงการที่โปร่งใส เพราะว่าเม็ดเงินทุกบาทมีประชาชนรองรับผ่านบัตรประชาชน จึงไม่มีทางที่เม็ดเงินเหล่านี้จะรั่วไหลไปผ่านกระเป๋าคนอื่น และข้อมูลพื้นที่รองรับในระบบบล็อกเชนมั่นใจได้มากกว่าระบบอื่น ในการที่จะติดตามตรวจสอบความผิดพลาดหรือการทุจริตใด ๆ ขณะเดียวกัน ยังย้ำว่า ขณะนี้ในเรื่องเม็ดเงิน ยังไม่ได้บอกว่าจะมีการกู้มาจากธนาคาร ส่วนกรณีที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า รัฐบาลมีเงินนอกงบประมาณ 4.8 ล้านล้านบาท สามารถนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้ฟัง ไม่กล้าตอบ

ส่วนมีกระแสข่าวว่าจะมีการฟ้องร้องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร กระบวนการนั้นเป็นไปตามสิทธิ์และช่องทางทางกฏหมาย ขณะนี้ ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ก็มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่มีหน่วยงานของรัฐช่วยดูให้รอบคอบรัดกุม ซึ่งตนเองจะไปคุยกับ ป.ป.ช. เอง เพื่อนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไข

ส่วนที่หลายคนกังวลว่าจะซ้ำรอยกับโครงการจำนำข้าว นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง ไม่เหมือนกัน เพราะนี่เป็นกลไกที่จะเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ และยังหาช่องโหว่ไม่ได้เลยว่าจะทุจริตได้ตรงไหน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ร้านค้าแรกเข้าต้องจ่าย 3% เป็นเรื่องที่คิดกันไปเอง ไม่มี เพราะไม่ใช่คริปโต เป็นการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล ประชาชนจะได้เงิน 10,000 บาท เต็ม ๆ ไม่มีหัก พร้อมกันนี้ยืนยันโครงการนี้ไม่มีว่า ทำไม่ได้ ทำได้แน่นอน

Advertisement