กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรยื่นถวายฎีการะบุเดือดร้อนจากการลอบนำเข้าหมูเถื่อน

74

Business Highlight Online : 28 กุมภาพันธ์ 2567 ตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยทั่วประเทศ ถวายฎีกาในหลวง หลังได้รับความเดือดร้อนจากขบวนการลับลอบนำเข้าหมูเถื่อน

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ายื่นหนังสือถวายฎีกากับสำนักพระราชวัง เพื่อขอให้ทูลเกล้าฯ ถวายให้พระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะขาดทุนจนทำให้ผู้เลี้ยงจำนวนหลายรายต้องเลิกกิจการไป ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องถวายฎีกาเนื่องมาจาก 3 ประเด็น คือ กรณีของการปราบปรามหมูเถื่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในประเทศไทยเป็นอย่างมากจนทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้ดำเนินการด้านคดีมาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ผ่านมากว่า 11 เดือน แต่กลับสามารถดำเนินคดีได้เพียงเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับล่างของกรมต่าง ๆ แต่ไม่สามารถเอาผิดข้าราชการระดับสูง หรือระดับอธิบดีและอดีตอธิบดีได้ และยังเกิดการทะลักของเนื้อหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก อีกทั้งพบว่ายังมีการสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงของ DSI ซึ่งมองว่าเป็นการแทรกแซงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จนทำให้คดีเกิดความล่าช้า

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หลังจากมีการไปร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ แต่กลับปล่อยให้กลุ่มทุนรายใหญ่ยังคงทุ่มตลาดและปล่อยให้เกิดปัญหาหมูเถื่อนเข้ามาในพื้นที่อยู่เรื่อย ๆ และยังพบปัญหาเรื่องราคาอาหารสุกรแพง ซึ่งยังคงมีราคาสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางผู้ค้าได้พยายามร้องขอให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาให้การช่วยเหลือเรื่องราคาอาหารสุกร แต่กลับพบว่าไม่เป็นผลยังคงมีการปรับขึ้นราคาถั่วเหลือง และกากถั่วเหลืองอยู่เรื่อย ๆ

ด้าน นายเดือนเด่น ยิ้มแย้ม ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่าที่ผ่านมามีกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยประมาณกว่า 2 แสนราย แต่ปัจจุบันได้รับความเดือดร้อนจนต้องเลิกกิจการและเหลือผู้ประกอบการอยู่เพียง 40,000 ราย ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครได้กำไร และมีหนี้สินท่วมตัว ทั้งนี้ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรรายย่อยเปิดเผยว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือคงสามารถประกอบกิจการอยู่ได้เพียง 2-3 เดือนเท่านั้น ซึ่งหากกลุ่มของตนเองขาดทุนและเลิกกิจการก็จะทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูที่จะสูงขึ้นตามการกำหนดของผู้ค้ารายใหญ่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยไปร้องเรียนมาแล้ว ทุกหน่วยงาน รวมถึงนายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือ แก้ไข ปัญหาดังกล่าว แต่เหมือนว่าข่าวกวาดล้างขบวนการหมูเถื่อนกลับเงียบหายไป วันนี้จึงต้องมาขอพึ่งพระบารมีของในหลวง โดยขอให้ช่วยหยุดปัญหาขาดทุน รัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ ช่วยลดต้นทุน ขยับราคาหมูขึ้น ลดราคาอาหารสัตว์ ลดภาษีนำเข้าอาหารสัตว์ เพื่อให้เกษตรสามารถลืมตาอ้าปากได้

Advertisement