business highlight online : 30 มิถุนายน 2560 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย พร้อมผู้บริหารสมาคม เข้าพบ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่อแสดงความขอบคุณ นบข. ที่สามารถแก้ไขปัญหาข้าวในสต็อกของรัฐได้ตามเป้าหมาย
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เปิดเผยหลังจากที่ ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย พร้อมผู้บริหารสมาคมฯ และคณะ ขอเข้าพบเพื่อแสดงความขอบคุณ นบข. ที่สามารถแก้ไขปัญหาข้าวในสต็อกของรัฐได้ตามเป้าหมาย ว่า ในช่วงแรกที่รัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศนั้น ได้เร่งหาเงินมาจ่ายคืนให้แก่เกษตรกรที่ได้นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำข้าว และยังไม่ได้รับเงินกว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และในขณะเดียวยังเร่งแก้ไขปัญหาข้าวที่มีอยู่ในสต็อก จำนวนมากกว่า 18 ล้านตัน โดย นบข. ได้กำหนดกรอบยุทศาสตร์และแผนการระบายข้าวในสต็อกอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงผลกระทบต่อตลาดและราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับ ดังนั้น การวางแผนและการดำเนินการระบายข้าวทุกครั้ง นบข. ได้พิจารณารายละเอียดทุกด้านด้วยความรอบคอบ ทั้งวิธีการ เงื่อนไข ชนิด ปริมาณ คุณภาพข้าวที่จะนำออกระบายแต่ละรอบ จังหวะเวลาของการระบายต้องตรวจติดตามสถานการณ์ตลาดและสถานการณ์ข้าวทั้งในและนอกประเทศ
พลเอกฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี นบข. ได้ทยอยระบายข้าวในสต็อกของรัฐมาแล้ว 16.96 ล้านตัน เหลือข้าวในสต็อกของรัฐที่รอระบายอีกประมาณ 0.8 ล้านตัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาข้าวในสต็อกของรัฐดังกล่าว ได้ช่วยให้กลไกตลาดกลับมาทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเห็นผลเป็นรูปธรรมได้จากราคาข้าวส่งออกที่ปรับฐานราคาสูงขึ้น และเกษตรกรในประเทศสามารถขายข้าวเปลือกได้ราคาดีขึ้น อีกทั้งยังมีภารกิจสำคัญอีกหนึ่งประการ คือ การเข้าไปกำกับดูแลและควบคุมป้องกันไม่ให้ข้าวสารในสต็อกของรัฐที่ขายเข้าสู่อุตสาหกรรมเพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์กว่า 5 ล้านตัน รั่วไหลเข้าสู่ตลาดบริโภค แล้วเข้าไปเพิ่มอุปทานข้าวในตลาดซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อราคาข้าวด้วย
“ตามที่ได้มีการลงพื้นที่ตรวจการทำงานของหน่วยปฏิบัติ ณ จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวาน (29 มิ.ย.2560) เป็นการดำเนินการภายใต้คำสั่ง นบข. ที่แต่งตั้งให้ผมเป็นประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต็อกของรัฐนั้น เพื่อเน้นย้ำและขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลและควบคุมการนำข้าวในสต็อกของรัฐไปใช้ในอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด ไม่มีการวนกลับมาเข้าสู่ตลาดการบริโภคได้อย่างแน่นอน ซึ่ง นบข.ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ช่วยให้การระบายข้าวหมดจากสต็อกในช่วงรัฐบาลชุดนี้ เพื่อไม่ให้รัฐต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายอีกต่อไป ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงนับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญซึ่งเป็นผลพวงจากการดำเนินนโยบายประชานิยมที่ผิดพลาดในประเทศไทย ซึ่งต่อไปจะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน” พลเอกฉัตรชัย กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การระบายสต็อกข้าวกว่า 18 ล้านตันออกจากระบบครั้งนี้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลชุดนี้ ที่จะทำให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยราคาข้าวขณะนี้อยู่ระหว่างกันปรับฐานราคา ซึ่งมีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7,000 – 9,500 บาท/ตัน ทั้งนี้ ทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยก็พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนนโยบายรัฐบาล เพื่อให้ข้าวไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดและเกษตรกรสามารถขายข้าวได้ในราคาที่เพิ่มสูงขึ้น
การเกษตร : นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวชื่นชมระบายข้าว 18 ล้านตันเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงรัฐบาล
business highlight online : post 1 กรกฎาคม 2560 เวลา 23.00 น.