ดันเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิกให้ใหญ่ที่สุดในโลก

196

business highlight online : 16 พฤศจิกายน 2565 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวทีประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หวังให้เป็นเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมสรุปข้อหารือเขตการค้าเสรี FTAAP เชื่อมการค้าการลงทุนให้มากขึ้น

นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค เป็นประธานการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2 ในช่วงเช้าวันนี้ (16 พ.ย.) โดยผลักดันการขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ  FTAAP หวังให้เป็นเขตเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ และการเชื่อมโยง การค้า การลงทุนของกลุ่มเอเปค เพื่อเสนอต่อเวทีระดับรัฐมนตรี และเสนอเวทีผู้นำเอเปค เป้าหมายการหารือเขตการค้าเสรีกลุ่มเอเปค หรือ FTAAP นับเป็นความร่วมมือพหุภาคีที่สำคัญของโลก มูลค่า GDP รวมกัน  61% ของทั้งโลก ทำให้ไทยได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจหลายมิติ

นายธานี กล่าวว่า ตลอดปีที่ผ่านมาคณะกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ หรือ SCE ได้ประสานงานและร่วมมือกับหลายฝ่ายเพื่อฟื้นฟูผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น การจัดฝึกอบรม การพัฒนาทักษะ และการแบ่งปันข้อมูลต่าง ๆ ผ่านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ หรืออีโคเทค (Economic and Technical Cooperation: ECOTECH) เพื่อสร้างขีดความสามารถและลดช่องว่างทางเศรษฐกิจ

“ทั้งยังใช้ความร่วมมือดังกล่าวเป็นตัวกลางให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เกิดขึ้นได้จริง โดยที่ SCE ได้ตั้งเป้าหมายและความร่วมมือย่อยต่าง ๆ เช่น การใช้โมเดลเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG) ที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและก้าวสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ ความร่วมมือระดับรัฐมนตรีในวาระด้านป่าไม้ ความปลอดภัยทางอาหาร ส่งเสริมผู้ประกอบเอสเอ็มอีให้เข้มแข็ง ส่งเสริมสตรีให้มีบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้น เศรษฐกิจสุขภาพ และการท่องเที่ยว รวมถึงการมุ่งเป้าสู่โรดแมพด้านความปลอดภัยและมั่นคงทางอาหารในปี 2573” นายธานี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น. นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค พร้อมด้วยนางรีเบคกา สตา มาเรีย ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขาธิการเอเปค เตรียมแถลงผลหารือ รวมทั้งสภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค แถลงรายการประจำปี 2564-65 เกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจของกลุ่มเอเปค เพื่อร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 สำหรับเศรษฐกิจไทยได้พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างสูง โดยในปี 2564 ไทยพึ่งพาการค้าจากกลุ่ม APEC ผ่านการส่งออกสินค้ามากถึง 72.1% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมด  ตลาดการส่งออกและนำเข้าสินค้าสำคัญ คือ สหรัฐ จีน และญี่ปุ่น ไทยยังมีเชื่อมโยงทางด้านการลงทุนกับกลุ่มสมาชิก APEC อย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนโดยตรงจากประเทศสมาชิก APEC ที่ไหลเข้าต่อเนื่อง และการลงทุนของไทยในประเทศสมาชิก APEC เพิ่มขึ้นเช่นกัน

Advertisement