เกษตรกรเฮราคาปุ๋ย-ยาลดลงต่อเนื่อง แถมปริมาณเพียงพอ

197

business highlight online : 9 มิถุนายน 2566 รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เกาะติดลงพื้นที่สำรวจทุกพื้นที่ที่เกษตรกรทั่วประเทศสามารถซื้อปุ๋ยเคมี-ยาชนิดต่างๆ ราคาลดลงต่อเนื่อง แถมปริมาณเพียงพอต่อการเพาะปลูกในฤดูกาลใหม่ ขณะที่สินค้าผักสดลดลงเช่นกัน

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่และได้รับรายงานพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรทั่วประเทศขณะนี้ โดยการจำหน่ายกลุ่มสินค้าปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชส่วนใหญ่มีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณสตอกสินค้ามีเพียงพอ และยังได้พูดคุยกับสหกรณ์ ร้านค้า และเกษตรกร พบว่าเกษตรกรในพื้นที่เริ่มซื้อปุ๋ยเคมีไปใช้กันมากขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นมา เนื่องจากขณะนี้อยู่ในฤดูเพาะปลูกข้าว โดยช่วงแรกนิยมใช้ปุ๋ยยูเรีย และช่วงถัดมานิยมใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 เป็นหลัก ส่วนปุ๋ยสูตรอื่นๆ ใช้เป็นตัวเสริมธาตุอาหาร หรือใช้เพาะปลูกพืชชนิดอื่น ทั้งนี้ ปริมาณปุ๋ยมีเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร และราคาปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภาพรวมราคาแม่ปุ๋ย เฉลี่ยภาคกลาง ปรับลดลง 26-50% เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2565 โดยแม่ปุ๋ยไนโตรเจน ได้แก่ ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ราคาลดลง 50% และ 47% ตามลำดับ แม่ปุ๋ยฟอสเฟต (18-46-0) ราคาลดลง 26% และแม่ปุ๋ยโพแทสเซียม (0-0-60) ราคาลดลง 26% ในเขตพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ราคาปุ๋ยก็ปรับลดลงเช่นกัน เช่น แม่ปุ๋ยยูเรีย ราคาจำหน่ายเคยขึ้นไปสูงกว่า 1,600 บาท/กระสอบ ปัจจุบันราคา 800 บาท/กระสอบ ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาปุ๋ยปรับลดลง มาจากราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับลดลง โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แม้ว่าจะยังคงผันผวนอยู่ แต่ก็ปรับลดลงมาแล้ว 20-25% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยปี 2565 นอกจากนี้ ความต้องการใช้ปุ๋ยในประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายสำคัญชะลอตัว โดยเฉพาะจีนที่ได้สิ้นสุดฤดูเพาะปลูกแล้ว และสหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วงปลายฤดูเพาะปลูก

ขณะที่กลุ่มยาปราบศัตรูพืช ขณะนี้ราคาก็ปรับลดลงมาแล้วเช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่แล้ว อาทิ ยาฆ่าหญ้ากลูโฟซิเนต ราคาลดลง 25% ไกลโฟเซต ราคาลดลง 19% และยาฆ่าแมลงอะบาเมกติน ราคาลดลง 28%

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศจะติดตามสถานการณ์ปริมาณและราคาปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเมื่อต้นทุนนำเข้าปรับลดลง ราคาจำหน่ายปลายทางก็ต้องปรับลดลงสอดคล้องกันด้วย หากเกษตรกรพบการฉวยโอกาสจำหน่ายแพงโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือการไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน สามารถแจ้งต่อกรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทางสายด่วน 1569 หรือทางไลน์@MR.DIT เจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบ ถ้าพบผิดจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

Advertisement