business highlight online : 24 สิงหาคม 2566 4 หน่วยงาน เตรียมจัดทำงบ ควบคู่ปี 67-68 เร่งอัดฉีดเงินสู่ระบบ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า หลังจากสำนักงบประมาณ เสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดทำงบประมาณไปพลางก่อน ในที่ประชุม ครม.เมื่อวานนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2567 เข้าสู่ระบบ จากกรอบเดิมที่รัฐบาลเคยอนุมัติไว้ 3.35 ล้านล้านบาท ประมาณการณ์รายได้ 2.757 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 593,000 ล้านบาท ภาระหนี้สาธารณะ 61.35 ต่อจีดีพี
เมื่อ ครม.ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อจัดทำนโยบายรัฐบาลเสนอต่อสภา จากนั้น 4 หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ คือ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ต้องจัดทำยุทศาสาตร์งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ตามสมมติฐานการเติบโตเศรษฐกิจของ สศช.คาดการณ์จีดีพีขยายตัวร้อยละ 2.5-3 ในปี 66 เมื่อปรับคาดการณ์จีดีพีลดลง จะส่งผลต่อเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของคลังลดลงอย่างไรบ้าง เพราะเดิมตั้งเป้าหมายรายได้ 2.757 ล้านล้านบาท เบื้องต้นการจัดเก็บภาษีรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บในปี 2566 ทำได้ตามเป้าหมาย เพราะกรมสรรพสามิต กลับมาจัดเก็บภาษีน้ำมันเข้ามาเหมือนเดิม 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้น จึงต้องรอรัฐมนตรีคลังคนใหม่ เข้ามาพิจารณาจะปรับเปลี่ยนกรอบเดิมได้มากน้อยเพียงใด ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 67
“การจัดทำกรอบงบประมาณปี 67 ล่าช้าจากเดิมมาหลายเดือน จึงมองว่า ขั้นตอนจัดการจัดทำงบประมาณปี 67 เพื่อเสนอสภาพิจาณา ต้องเร่งจัดทำหลายขั้นตอนให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้งบประมาณออกสู่ระบบได้ในช่วงต้นปีหน้า ในส่วนของกระทรวงการคลัง มองว่า อาจต้องจัดเตรียมงบประมาณรายจ่ายปี 68 ควบคู่กันไปด้วย เพราะในช่วงปลายปีของทุกปี 4 หน่วยงานหลักจะต้องประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ ศึกษาหารือกรอบงบประมาณปีถัดไป เพื่อเสนอสภาพิจารณา แต่ในปีนี้อาจต้องจัดทำกรอบงบประมาณทั้ง 2 ปี ควบคู่กันไปพร้อมๆกัน” นายพรชัย กล่าว
สำหรับการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบในช่วงนี้ นอกจากงบประจำที่เป็นเงินเดือนราชการแล้ว ในส่วนของงบลงทุน อาจต้องอาศัยแบงก์รัฐ ซึ่งดำเนินการอยู่ ปล่อยกู้ดูแล รายย่อย เอสเอ็มอี เพื่อเติมทุน หลังจากรัฐบาลได้อนุมัติโครงการ ตาม ม.28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เพื่อให้แบงก์รัฐ ช่วยดูแลรายย่อยช่วงนี้ อีกทั้งการให้รัฐวิสาหกิจ ทั้งงบตามปีปฏิทินและปีงบประมาณ จัดเตรียมโครงการลงทุนให้พร้อม เมื่อรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงานจะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ จะมีเงินลงทุนออกสู่ระบบได้ 1-2 แสนล้านบาท เพราะบอร์ดสภาพัฒน์ อนุมัติโครงการลงทุนเบื้องต้นรองรับไว้แล้ว เพื่อให้ปลายปีนี้และต้นปีหน้า พอยังมีงบอัดฉีดออกสู่ระบบ
Advertisement